ในช่วงส่งท้ายยุคเฮย์เซย์เข้าสู่ยุคเรย์วะ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมานั้น นับตั้งแต่เจลีกเริ่มต้นขึ้นในปีเฮย์เซย์ที่ 4 (1993) เป็นต้นมา ก็มีสงครามครั้งใหญ่แห่งวงการฟุตบอลเกิดขึ้น 1-2 ครั้ง
สิ่งที่สร้างสีสันให้กับเจลีกนับตั้งแต่มีมานั้นคือการมาเยือนของนักเตะชาวต่างชาติ หากไม่มีพวกเขาล่ะก็เจลีก ไม่สิ สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นก็คงไม่มีชีวิตชีวาเช่นนี้แน่
โดยทางกองบรรณาธิการ Soccer Digest ได้เลือก "นักเตะชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุด" จาก 26 สโมสรตลอด 26 ปีของเจลีกที่มีมา โดยจะแบ่งบทความเป็นทั้งหมด 3 ฉบับ บทความนี้เป็นฉบับสุดท้าย โดยจะมี "Original 10" ของนาโกย่า, โตเกียว เวอร์ดี้ รวมไปถึงตำนานแห่งโยโกฮาม่าฟลูเกลส์ ฯลฯ มาแนะนำ
■Nagoya Grampus
Dragan Stojković（MF）
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ：อดีตทีมชาติยูโกสลาเวีย
●ช่วงปีค้าแข้ง：93～01
●สถิติรวม：J1／184นัด・57ประตู（Nagoya）
สัญญาครั้งแรกครึ่งปี สโตโควิคเจ้าของฉายา "พิกซี่" ในครั้งแรกเริ่มนั้นเขาไม่อยากให้เจลีกเป็นสนามการค้าแข้งสุดท้ายในชีวิตของเขา
จุดพลิกผันคือการที่สโมสรมีอาร์เซน เวนเกอร์มาเป็นผู้จัดการทีม พิกซี่จึงทำการต่อสัญญาอีกครั้งในปี 1995 โดยหวังจะเล่นอยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือดีกรีระดับโลกชาวฝรั่งเศส สไตล์การเล่นที่เอาแต่เรียกใบเหลืองใบแดงหายไป เขากลับมาใช้ทักษะในการคุมเกมได้อย่างเหนือชั้น
ในปี 1995 เขายิงไป 15 ประตูแล้วได้รับรางวัลเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม หลังจากนั้นก็ถูกเลือกติด Best11 3 สมัย
เขาครองสถิตินักเตะต่างชาติที่เล่นอยู่ในนาโกย่านานที่สุดถึง 184 นัด ทำประตูไป 57 ลูกจนกลายเป็นที่จารึกในหัวใจของแฟน ๆ หลังจากนั้นก็แขวนสตั๊ดในปี 2001 แล้วใน 9 ปีให้หลังก็กลับมาคุมทีมอีกครั้งโดยหวังจะพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ตามเป้าหมายที่ทำไม่ได้ในสมัยยังเป็นนักเตะ
ปาร์คจีซุงแห่งพิกซี่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลแห่งฟลูเกลส์... บทความ "ชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเฮเซ" ของเจลีก! 【ปัจฉิมบท】
カテゴリ：Jリーグ
2019/04/30
การพบกับเวนเกอร์คือจุดเปลี่ยน
บทความแนะนำ "ชาวต่างชาติสุดแข็งแกร่ง" ที่จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ของเจลีก คราวคือตำนานจาก 9 สโมสรอาทินาโกย่าและโตเกียวเวอร์ดี้
(C)SOCCER DIGEEST
■Tokyo Verdy
Bismarck（MF）
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ：อดีตทีมชาติบราซิล
●ช่วงปีค้าแข้ง：93～96
●สถิติรวม：J１／283นัด・69ประตู（V Kawasaki：137นัด・36ประตู）
หลังจากไปลงสู้ศึกฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีในฐานะมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จากนั้นในปี 93 ก็ย้ายมาเล่นให้กับเวอร์ดี้คาวาซากิ(ชื่อในสมัยนั้น) แม้อิมแพ็คของเขากับเจลีกจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากนักก็ตามแต่เขาก็เป็นแบบอย่างให้กับนักเตะเจลีกได้อย่างมากมาย
ทักษะพื้นฐานสูงส่ง ไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดง่าย ๆ สไตล์การเล่นที่ใช้เทคนิคการเตะจากเท้าด้านใน คอยจ่ายลูกให้กับศูนย์หน้าอย่างมิอุระ คาซึโยชิและทาเคดะ โนบุฮิโระทำประตูมานักต่อนัก นอกจากนั้นยังเป็นมิดฟิลด์ที่มีเซนส์บอลที่ดีเยี่ยมด้วย ในปี 1994 ทำประตูเกมลีกไป 14 ลูก นอกจากนั้นในปี 1995 ก็ยังทำไปอีก 11 ลูกด้วย
ส่วนการแข่งขันถ้วย Nabisco Cup ปี 93 และ 94 นั้นเขาก็ครองตำแหน่งดาวซัลโวสองปีต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกความเป็นคริสตศาสนิกชนผู้ถ่อมตัว ภาพลักษณ์ของเขาที่เวลาทำประตูได้ทุกครั้งจะคุกเข่าลงพื้นแล้ววิงวอนอธิษฐานได้จารึกอยู่ในหัวใจของแฟน ๆ
Bismarck（MF）
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ：อดีตทีมชาติบราซิล
●ช่วงปีค้าแข้ง：93～96
●สถิติรวม：J１／283นัด・69ประตู（V Kawasaki：137นัด・36ประตู）
หลังจากไปลงสู้ศึกฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีในฐานะมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล จากนั้นในปี 93 ก็ย้ายมาเล่นให้กับเวอร์ดี้คาวาซากิ(ชื่อในสมัยนั้น) แม้อิมแพ็คของเขากับเจลีกจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากนักก็ตามแต่เขาก็เป็นแบบอย่างให้กับนักเตะเจลีกได้อย่างมากมาย
ทักษะพื้นฐานสูงส่ง ไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดง่าย ๆ สไตล์การเล่นที่ใช้เทคนิคการเตะจากเท้าด้านใน คอยจ่ายลูกให้กับศูนย์หน้าอย่างมิอุระ คาซึโยชิและทาเคดะ โนบุฮิโระทำประตูมานักต่อนัก นอกจากนั้นยังเป็นมิดฟิลด์ที่มีเซนส์บอลที่ดีเยี่ยมด้วย ในปี 1994 ทำประตูเกมลีกไป 14 ลูก นอกจากนั้นในปี 1995 ก็ยังทำไปอีก 11 ลูกด้วย
ส่วนการแข่งขันถ้วย Nabisco Cup ปี 93 และ 94 นั้นเขาก็ครองตำแหน่งดาวซัลโวสองปีต่อเนื่อง ด้วยบุคลิกความเป็นคริสตศาสนิกชนผู้ถ่อมตัว ภาพลักษณ์ของเขาที่เวลาทำประตูได้ทุกครั้งจะคุกเข่าลงพื้นแล้ววิงวอนอธิษฐานได้จารึกอยู่ในหัวใจของแฟน ๆ
