ในช่วงส่งท้ายยุคเฮย์เซย์เข้าสู่ยุคเรย์วะ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมานั้น นับตั้งแต่เจลีกเริ่มต้นขึ้นในปีเฮย์เซย์ที่ 4 (1993) เป็นต้นมา ก็มีสงครามครั้งใหญ่แห่งวงการฟุตบอลเกิดขึ้น 1-2 ครั้ง
สิ่งที่สร้างสีสันให้กับเจลีกนับตั้งแต่มีมานั้นคือการมาเยือนของนักเตะชาวต่างชาติ หากไม่มีพวกเขาล่ะก็เจลีก ไม่สิ สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นก็คงไม่มีชีวิตชีวาเช่นนี้แน่
โดยทางกองบรรณาธิการ Soccer Digest ได้เลือก "นักเตะชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุด" จาก 26 สโมสรตลอด 26 ปีของเจลีกที่มีมา โดยจะแบ่งบทความเป็นทั้งหมด 3 ฉบับ
ซึ่งในฉบับแรกนั้น จะมี "Original 10" แห่งคาชิมะ, กัมบะโอซาก้า, อุราวะและโยโกฮาม่า เป็นต้น มารู้จักตำนานของ 8 สโมสรแรกกันเลยดีกว่า
■Kashima Antlers
Zico(MF)
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ:อดีตทีมชาติบราซิล
●ช่วงปีค้าแข้ง:1993~1994
●สถิติรวม:J1/23 นัด・14 ประตู(Kashima)
เดินทางมาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 91 โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Sumitomo Metal เขาเอาจิตใจของผู้ชนะมาแบ่งปันในสนาม ส่วนนอกสนามก็นำเอาความเป็นมืออาชีพส่งต่อให้นักเตะญี่ปุ่น จนกระทั่งในนัดเปิดสนามของเจลีกเป็นครั้งแรกในปี 1993 ก็เป็นผู้ยิงแฮททริคได้ ซีโก้คือก้าวสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ในเวทีแรก
นอกจากนั้นศึกแชมป์เปี้ยนชิพในปีเดียวกันก็ยังสังหารจุดโทษกับทีม V Kawasaki แม้บอลจะถูกปัดออกมาได้แต่ก็เข้าไปตามซ้ำ บางทีสิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นจิตใจของผู้ยึดติดในชัยชนะก็เป็นได้กระมัง
หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 1984 ก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านเทคนิคของสโมสร นอกจากนั้นยังเชิญชวนนักเตะบราซิลที่มีความสามารถเข้ามาร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง เขาคือผู้สร้างสีสันให้กับสโมสรตราบจนถึงปัจจุบัน ความจริงจังของเขาที่มีกับทุกการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นเกมที่เล็กน้อยแค่ไหนนั้นนับเป็นคุณูปการแห่งวงการฟุตบอลญี่ปุ่นที่แสนไพศาล
ปัจจุบันนี้ดำรงตำแหน่งเป็น Technical Director ของสโมสร
พระเจ้าซีโก้และ "เสือดำแห่งนานิวะ" เอ็มโบม่า ฯลฯ คือ "ชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเฮเซ" ของเจลีก!【ปฐมบท】
カテゴリ:Jリーグ
2019/04/28
เกมเปิดสนามสุดฮือฮา

ซีโก้แห่งคาชิมะ(รูปซ้าย)และเอ็มโบมาแห่งกัมบะโอซาก้า(รูปขวา)คือ "ชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์" ของเจลีก แม้พวกเขาจะเล่นในสนามไม่ยาวนานนักก็ตาม แต่อิมแพ็คที่ก่อขึ้นมานั้นช่างมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง
(C)SOCCER DIGEEST
■Gamba Osaka
Patrick M'Boma(FW)
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ:อดีตทีมชาติแคเมอรูน
●ช่วงปีค้าแข้ง:1997~1998
●สถิติรวม:J1/79 นัด・48 ประตู(G Osaka:34 นัด・29 ประตู)
ตำนานเริ่มต้นในนัดเปิดสนาทที่ฮิราซึกะ การโชว์ฟุตเวิร์คอย่างงดงาม การสะบัดเท้าข้างซ้ายประกอบกับความเร็วของลูกที่พุ่งตรงตาข่ายอย่างรุนแรงนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งการแข่งขันในนัดนั้นทำให้ชื่อของ "เอ็มโบมา" กลายเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้า
หลังจากนั้นก็ยังคงยิงประตูอย่างต่อเนื่องจนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวในปี 1997 จากนั้นในปี 1998 เขาก็ติดทีมชาติได้ไปเล่นฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส ช่วงเวลาตลอดหนึ่งปีครึ่งก่อนที่จะย้ายไป Cagliari นั้นเต็มไปด้วยอิมแพ็ค ทางด้านอากิตะ ยูทากะที่เป็นผู้นำทีมญี่ปุ่นไปสู้ศึกที่ฝรั่งเศสนั้น "ปกติต้องเจอกับเอ็มโบมาในเจลีกอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกกลัวเลยครับ" ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเขามีอิทธิพลกับวงการลูกหนังญี่ปุ่นมากถึงขนาดไหน
ส่วนผู้ตั้งฉายาให้เขาเป็น "เสือดำแห่งนานิวะ" ก็คือทาง Soccer Digest ฉบับรายสัปดาห์นี่เอง
Patrick M'Boma(FW)
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ:อดีตทีมชาติแคเมอรูน
●ช่วงปีค้าแข้ง:1997~1998
●สถิติรวม:J1/79 นัด・48 ประตู(G Osaka:34 นัด・29 ประตู)
ตำนานเริ่มต้นในนัดเปิดสนาทที่ฮิราซึกะ การโชว์ฟุตเวิร์คอย่างงดงาม การสะบัดเท้าข้างซ้ายประกอบกับความเร็วของลูกที่พุ่งตรงตาข่ายอย่างรุนแรงนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งการแข่งขันในนัดนั้นทำให้ชื่อของ "เอ็มโบมา" กลายเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้า
หลังจากนั้นก็ยังคงยิงประตูอย่างต่อเนื่องจนคว้าตำแหน่งดาวซัลโวในปี 1997 จากนั้นในปี 1998 เขาก็ติดทีมชาติได้ไปเล่นฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส ช่วงเวลาตลอดหนึ่งปีครึ่งก่อนที่จะย้ายไป Cagliari นั้นเต็มไปด้วยอิมแพ็ค ทางด้านอากิตะ ยูทากะที่เป็นผู้นำทีมญี่ปุ่นไปสู้ศึกที่ฝรั่งเศสนั้น "ปกติต้องเจอกับเอ็มโบมาในเจลีกอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกกลัวเลยครับ" ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเขามีอิทธิพลกับวงการลูกหนังญี่ปุ่นมากถึงขนาดไหน
ส่วนผู้ตั้งฉายาให้เขาเป็น "เสือดำแห่งนานิวะ" ก็คือทาง Soccer Digest ฉบับรายสัปดาห์นี่เอง