Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • สิบเอกยักษ์อสูร "ดุงก้า" แห่งอิวาตะ ในส่วนตำนานผู้สร้างฮิโรชิม่าและโกเบในประวัติศาสตร์คือ? บทความ "ชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเฮเซ" ของเจลีก! 【บทกลาง】

สิบเอกยักษ์อสูร "ดุงก้า" แห่งอิวาตะ ในส่วนตำนานผู้สร้างฮิโรชิม่าและโกเบในประวัติศาสตร์คือ? บทความ "ชาวต่างชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเฮเซ" ของเจลีก! 【บทกลาง】

カテゴリ:ワールド

サッカーダイジェストWeb編集部

2019/04/29

สิบเอกยักษ์อสูรผู้วางรากฐานให้อิวาตะ

ดุงก้า(คนซ้าย)และโจแจจิน(คนขวา)ผู้ให้การสนับสนุน "อาณาจักรแห่งฟุตบอล" ชิซึโอกะทั้งสองสโมสร ดุงก้าคือผู้วางรากฐานให้กับอิวาตะโดยแท้จริง

(C) SOCCER DIGEST

画像を見る

■Jublio Iwata
Dunga(MF)
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ:อดีตทีมชาติบราซิล
●ช่วงปีค้าแข้ง:95~98
●สถิติรวม:J1/99นัด・16ประตู

  หากรากฐานคาชิมะเกิดจากซีโก้ อิวาตะก็ต้องเป็นชายคนนี้

  ดุงก้าที่ถูกเรียกติดทีมชาติในปี 1995 และลงสู้ศึกฟุตบอลโลกนั้น ระหว่างการแข่งขันเขาก็ยังแผดเสียงติเตียนนักเตะญี่ปุ่นจนถูกเรียกเป็น "สิบเอกยักษ์อสูร" โดยเจ้าตัวระบุว่า "ชัยชนะจะนำมาซึ่งความสุข เพื่อการนั้นแล้วผมก็พร้อมจะเป็นฝ่ายถูกเกลียด" ซึ่งนั่นคือนโยบายที่เขายังคงรักษาไว้เหมือนเดิมโดยตลอดมา

  ภายใต้ดุงก้านั้นมีนักเตะญี่ปุ่นหลายคนที่แตกหน่อผลิบาน การเล่นของดุงก้าในปี 1997 จนคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนชิพ พอถึงปี 1998 ก็คว้าถ้วยรางวัลศึกนาเดชิโกะคัพได้ โดยดุงก้าถูกเลือกติด Best11 ทั้งสองปี นอกจากนั้นในปี 1997 ก็ถูกเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของเจลีกในฤดูกาลนั้นด้วย

  แม้ตอนที่เขามาญี่ปุ่นจะมีอายุ 32 ซึ่งเป็นช่วงปลายทางแล้วก็ตาม แต่กระนั้นก็ยังสามารถเปิดบอลข้ามฝั่งอย่างแม่นยำ นอกจากนั้นความสามารถในการเก็บบอลและจิตใจที่เด็ดเดี่ยวของเขานั้นยังคงเหมือนยุคทองของเจ้าตัวไม่เปลี่ยนแปลง
 
■Shimizu S-Pulse
Cho Jae-jin(FW)
●สัญชาติ หรือ ทีมชาติ:อดีตทีมชาติเกาหลีใต้
●ช่วงปีค้าแข้ง:04~07
●สถิติรวม:J1/136นัด・55ประตู(Shimizu:101นัด・45ประตู)

  ชื่อเสียงของเขาเริ่มต้นในยุคสมัยแรกของทีม จริงอยู่ที่ชิมิซุเคยมีผู้รักษาประตูเจ้าของฉายา "สไปเดอร์แมน" จากแขนขายาวที่มีฟอร์มเซฟเหนียวหนึบอย่างซิดมาร์มาก่อน รวมทั้งยังมีซันโตสที่ค้าแข้งในปี 1999-2000 แล้วช่วยเหลือทีมอย่างมากมาย ทว่าก็ไม่สามารถมองข้ามผลงานของโจแจจินกับชิมิซุได้เลย

  กองหน้าตัวเป้ารูปร่างสูงยาวผู้ลงศึกฟุตบอลโลกที่เยอรมันในปี 2006 นั้น เขาคือศูนย์หน้าตัวเป้าที่เป็นคนพักบอล ความสามารถในการโหม่งทำประตูของเขาที่มีความแม่นยำสูงในกรอบเขตโทษนั้นก่อภัยให้กับทีมตรงข้ามมานับครั้งไม่ถ้วน

  โจแจจินพูดจาได้หลายภาษา ผลงานในสนามก็ชัดเจน หลังจากอยู่กับทีมได้เข้าสู่ปีที่ 2 หรือตรงกับปี 2005 นั้น เขาก็เล่นจับคู่ประสานงานกับมาร์ควินโญ่จนทำไป 9 ประตูช่วยเหลือทีมให้รอดจากการตกชั้นได้ ส่วนในปีต่อมาก็ทำไปคนเดียว 16 ประตูช่วยให้ทีมขึ้นถึงอันดับ 4 นอกจากนั้นในปี 2007 ก็ยังทำประตูสองหลัก(13 ลูก) แล้วให้ทีมรักษาอันดับ 4 จากฤดูกาลก่อนได้เหมือนเดิม

  ถึงอดีตศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีใต้อย่างโจแจจินออกจากสโมสรในปี 2008 แล้วย้ายไปเล่นให้กับกัมบะโอซาก้าในปี 2009 ก็ตาม แต่ผลงานของเขาตลอดทั้ง 3 ฤดูกาลที่เห็นกันอย่างชัดเจนนั้นก็คู่ควรที่จะได้รับการจดจำแล้ว

Facebookでコメント