Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • บทสัมภาษณ์ "เป๊ปเวอร์ชั่นอิตาลี" ในสมัยค้าแข้งอยู่เขาเรียนรู้อะไรจากมัลดินี่และบักจิโอ้บ้าง?【EXCLUSIVE INTERVIEW】

บทสัมภาษณ์ "เป๊ปเวอร์ชั่นอิตาลี" ในสมัยค้าแข้งอยู่เขาเรียนรู้อะไรจากมัลดินี่และบักจิโอ้บ้าง?【EXCLUSIVE INTERVIEW】

カテゴリ:ワールド

ワールドサッカーダイジェスト編集部

2019/03/14

"มิลานในตอนนั้นคือกัลโช่โดยแท้เลย"

Roberto De Zerbi ที่ให้เกียรติสัมภาษณ์ Exclusive Interview

ภาพโดย:Alberto LINGRIA

画像を見る

  Roberto De Zerbi ที่ถูกจับตามองในฐานะ "เป๊ป กวาดิโอลาร์เวอร์ชั่นอิตาลี" เขาเข้ามาคุมสโมสร Sassuolo นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลนี้ ซึ่งเน้นการทำเกมรุกในสไตล์ Possession Soccer ต่อให้เจอทีมที่เล่นได้เหนือกว่าแต่ก็ยังจะยืนหยัดเล่นแผนนี้ต่อไป ซึ่งความทุ่มเทและเชื่อมั่นต่อกลยุทธ์นี้นั้นทำให้กุนซือชื่ออย่าง Arrigo Sacchi รวมไปถึงเป๊ปกล่าวชื่นชม

  ซึ่งทาง World Soccer Digest ได้เข้าไปขอสัมภาษณ์ Exclusive Interview กับทางเดแซร์บี้ได้ โดยจะลงบทความดังกล่าวลงในนิตยสารฉบับวันที่ 20 มีนาคม ส่วนทาง Soccer Digest ฉบับเว็บไซต์นั้นจะลงมุมถามตอบที่ไม่ได้ใส่ในคอลัมน์ Exclusive Interview ในนิตยสาร โดยเริ่มจากคำถามเกี่ยวกับในสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่

――ขอบคุณทางกุนซือมากเลยนะคะที่วันนี้ให้เกียรติสละเวลามาให้สัมภาษณ์กับทางเรา ก่อนอื่นเลยขอถามเรื่องราวในสมัยที่ยังค้าแข้งอยู่ก่อนเลยนะคะ ทางกุนซือเติบโตมาจากอคาเดมีของมิลานเลยใช่ไหมคะ?

  "บ้านของผมมีฐานะครับ พ่อเป็นแฟนบอล อยากจะให้ผมโตแล้วเป็นแบบกัลช่าโทเร่ให้ได้ เพียงแต่ว่าแม่นั้นไม่ค่อยรู้เรื่องฟุตบอลเท่าไรนัก ก็เลยบังคับให้ผมตั้งใจเรียนหนังสือด้วยครับ พอมานึกถึงตอนนี้แล้วผมก็รู้สึกมีบุญมากเลย การได้อบรมทั้งฟุตบอลและการเรียนหนังสืออย่างเข้มงวดนั้นเลยทำให้ผมเติบโตทั้งในฐานะนักเตะและมนุษย์คนหนึ่งเลยล่ะครับ"

――งั้นหรอกเหรอคะ แสดงว่าฟุตบอลมาก่อนหรือเปล่าคะ?

  "ใช่ครับ ผมมีชีวิตอยู่เพื่อฟุตบอลตลอด 24 ชั่วโมง ผมมีแนวคิดว่า ตัวเองต้องเรียนหนังสือเพื่อที่จะได้เล่นฟุตบอลแหละครับ(หัวเราะ) ตอนที่ผมต้องเข้าหอพักของมิลานในวัย 15 ปีนั้น มันทำให้ผมรู้สึกลำบากมากเลยครับที่ต้องห่างจากที่บ้าน คิดถึงพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนฝูงมากจริง ๆ แต่ถ้าเพื่อฟุตบอลแล้วผมก็พร้อมสละทุกสิ่งทุกอย่างครับ"
 
――บ้านเกิดที่ Brescia มันก็ไม่ได้ห่างจากมิลานมากนี่คะ?(ราว ๆ 100 กิโล)

  "นั่นสินะครับ เพียงแต่ว่าผมสามารถกลับบ้านได้แค่หนึ่งครั้งต่อ 2-3 อาทิตย์เท่านั้น ในช่วงนั้นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเข้มมาก ต้องล็อคห้องตอน 4 ทุ่มหรือ 4 ทุ่มครึ่ง ห้ามดูโทรทัศน์ ในยุคสมัยนั้นก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยครับ ผมใช้ชีวิตแตกต่างจากวัยรุ่นทั่ว ๆ ไปในยุคนั้น แต่เนื่องจากผมมีแพชชั่นและความทะเยอทะยานเลยพร้อมเสียสละครับ"

――ในยุคสมัยนั้นทีมชุดใหญ่ของมิลานมีนักเตะชื่อดังอยู่เยอะมากเลยใช่ไหมคะ

  "ใช่ครับ มิลานในตอนนั้นคือกัลโช่โดยแท้เลย แล้วผมโชคดีมากจริง ๆ ที่ผมได้มีโอกาสฝึกซ้อมร่วมกันกับคัมปิโอเน่(นักเตะชื่อดัง)ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบาเรซี, บัจจิโอ้, มัลตินี่, เวร์, โบแบง การที่ผมได้ฝึกซ้อมร่วมกันกับนักเตะที่ผมเห็นในโทรทัศน์นั้นมันราวกับว่าผมอยู่ในภาพยนตร์เลยล่ะครับ"

――คุณเรียนรู้อะไรจากคัมปิโอเน่เหล่านั้นบ้างคะ

  "พวกเทคนิคนี่ก็ดูจากในโทรทัศน์ก็ซึมซับได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมเรียนรู้โดยตรงจากเหล่าคัมปิโอเน่คือความจริงจังและแพชชั่นที่มีต่อฟุตบอลครับ ผมประทับใจมากเลย พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการรักษากฎและการฝึกซ้อม ความยิ่งใหญ่ในการแบกตำนานของสโมสรไว้บนบ่า นักเตะมิลานในสมัยนั้นทุกคนมีความยึดมั่นต่อสโมสรสูงมาก ๆ เลยล่ะครับ"
【関連記事】

Facebookでコメント