การแข่งขันเจลีควันที่ 1 ธันวาคม เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่มีทีมเตะพร้อมกันทั้งหมด 9 ทีมและเริ่มเขี่ยลูกในเวลา 14 นาฬิกาตรง Consadole Sapporo เปิด Sapporo Dome ต้อนรับการมาเยือนของ Sanfrecce Hiroshima หากทีมซัปโปโรคว้าชัยในนัดนี้ได้จะเป็นการการันตีการคว้าที่นั่ง ACL ในฤดูกาลหน้าเลยทันที

  การแข่งขันผ่านไปเพียง 3 นาทีทีมเจ้าบ้านก็ขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่อาราโนะจ่ายให้ Jay พักบอลแล้วลูกกระดอนไปด้านหลังเข้าทางของ "เมสซี่เมืองไทย" ชนาธิป สรงกระสินธ์ จนกดด้วยเท้าข้างซ้ายเลียบเข้าประตูไปได้อย่างงดงาม ต่อจากนั้นในนาทีที่ 21 ก็เป็นทาง Jay ที่ทำประตูให้ซัปโปโรทิ้งห่างไปด้วย 2-0

  หากผลการแข่งขันจบลงเท่านี้ จะทำให้ซัปโปโรที่ก่อนลงเตะมีคะแนนอยู่ 54 แต้มจะพลิกขึ้นไปแซงฮิโรชิม่าที่มีอยู่ 56 แต้มโดยทันทีและเป็นการการันตีการลงเล่นใน ACL ทว่าฮิโรชิม่าก็ไม่ยอมโดยง่าย ในนาทีที่ 39 มาวาทาริ คาซึอากิก็ทำประตูตีตื้นขึ้นมา 1 ลูก จนเริ่มครึ่งหลังได้ 6 นาทีก็เป็นทางฝั่งของชิบาซากิ โคเซ ที่โหม่งทำประตูตีเสมอ

  หลังจากนั้นทั้งสองฝั่งก็ไม่สามารถทำประตูกันเพิ่มได้ ท้ายที่สุดก็จบการแข่งขันด้วยการแบ่งคะแนนไปทีมละ 1 แต้ม นอกจากนั้นสโมสรคาชิมะก็เสมอกับโทสุด้วยผลการแข่งขัน 0-0 จึงทำให้ฮิโรชิม่าได้อันดับ 2 คาชิมะได้อันดับ 3 และอันดับ 4 เป็นของทางซัปโปโรแทน จะกลายเป็นฝั่งของฮิโรชิม่ากับคาชิมะที่ต้องลงเล่น Play-off กันเพื่อชิงที่นั่ง ACL ในฤดูกาลหน้า
　
  ถึงแม้ซัปโปโรจะหมดลุ้นการคว้าที่นั่งใน ACL ด้วยผลการแข่งขันในลีคไปแล้วก็ตาม แต่หากสโมสรคาชิมะสามารถคว้าแชมป์ในศึกชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักรพรรดิ (Emperor's Cup) ไปครองได้ล่ะก็คาชิมะจะไม่จำเป็นต้องลงเล่น Play-off แต่ก็สามารถเข้าสู่รอบสุดท้ายของ ACL ได้โดยทันที