Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • ศึก Ruhr derby สุดคลาสสิกแห่งบุนเดสลิก้าผลการแข่งขันออกมาอย่างสุดโกลาหล ต้นเหตุแห่งความย่อยยับของดอร์ทมุนด์คืออะไรแน่? 【สดจากสนาม】

ศึก Ruhr derby สุดคลาสสิกแห่งบุนเดสลิก้าผลการแข่งขันออกมาอย่างสุดโกลาหล ต้นเหตุแห่งความย่อยยับของดอร์ทมุนด์คืออะไรแน่? 【สดจากสนาม】

カテゴリ:連載・コラム

中野吉之伴

2019/04/30

กลยุทธ์ที่วางเอาไว้เข้ากับสภาพของนักเตะในปัจจุบัน

  สำหรับเกิ๊ตเซ่นั้น นอกจากจังหวะทำประตูแล้วในนัดนี้ก็แทบไม่เห็นจบสกอร์อีกเลย ส่วนรอยส์นั้นก็ยังคงพาบอลเข้าไปในพื้นที่เกมรับของฝั่งตรงข้ามต่อเนื่อง แต่กระนั้นการปั้นเกมก็มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมาก เกมรุกก็เร่งเครื่องไม่ขึ้น

  เมื่อต้องเจอกับทีมชาลเก้ที่เล่นประกบตัวต่อตัวนั้น ก็ควรที่จะต้องต่อบอลรวดเร็วเพื่อชิงพื้นที่สั้น ๆ แต่กระนั้นการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ไม่เห็นกับทีมในนัดนี้เลย

  ในการให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันจบลง ฟาฟร์ระบุถึงเจตนารมณ์การจัดนักเตะว่า "90-95% จะเล่นด้วย 4-2-3-1" เป็นการคงระบบการเล่นดังเดิมไว้ในเกมต่อเกม

  ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกเล่นได้อย่างมีเสถียรภาพ ถ้าหากทีมต้องการทำประตูก็จะส่งอาคาซาร์ลงสนาม หากว่ากันตามตรงแล้วเป็นระบบการเล่นที่เรียบง่ายมาก แน่นอนว่ามันก็ไม่ผิด เพียงแต่ว่าระบบการเล่นเหล่านั้นมันเข้ากับนักเตะในปัจจุบันนี้หรือไม่มันก็เป็นอีกประเด็น

  เมื่อประกอบกับความกดดันที่ไม่สามารถแพ้ได้ ภายใต้บรรยากาศของ Rurh derby ที่ทำให้สภาพการแข่งขันมันแตกต่างออกไปจากเดิม จึงทำให้เป็นประเด็นน่าขบคิดว่าจิตใจของพวกเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะรับเอาไว้ได้หรือไม่

  ยิ่งในช่วงหลังมานี้มีการใช้งานรอยส์ เกิ๊ตเซ่และอัลคาเซอร์ต่อเนื่องจนทำให้ทีมมีฟอร์มดี ประกอบกับสัดส่วนผู้เล่นอายุน้อยก็มีมากยิ่งขึ้น บางทีการจัดทีมโดยเล่นเกมรุกให้เต็มที่เพื่อให้นักเตะได้ปลดปล่อยกันนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีกว่างั้นหรอกหรือ

  แน่นอนว่าหลังจากส่งอัลคาเซอร์ลงสนามนาที 56 และถ้าไม่มีใบแดงเกิดขึ้นล่ะก็ บางทีเกมมันก็อาจจะออกมาเป็นคนละเรื่องก็เป็นได้ บางทีทีมอาจจะพลิกชนะได้ในช่วงท้ายเกม แต่ไม่ว่าทีมจะเป็นปึกแผ่นแค่ไหน แต่การที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป 2 คนนั้นการจะเล่นโดยไร้ความกดดันมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย

  แต่เมื่อผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถามฟาฟร์ว่า "เข้าใจอยู่ว่าลูกจุดโทษเป็นจุดน่ากังขา แต่คิดว่ามีสาเหตุอะไรอย่างอื่นที่ทำให้ทีมแพ้ด้วยหรือไม่? ไม่ใช่ว่ารู้สึกเกร็งกันด้วยหรอกหรือ?" ซึ่งทางฟาฟร์ก็กล่าวตอบว่า

  "นี่คือใบแดงแรกในฤดูกาลนี้ พวกเขายังไม่ชินกับการที่ทีมต้องเสียคนไปหนึ่งคน นอกจากนั้นยังโดนใบแดงไปสองคน มันก็ต้องเป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว"

  การที่กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความเกร็งนั้น บางที่ผู้ที่รู้สึกเกร็งในศึกดาร์บี้ครั้งนี้ที่สุดอาจจะไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นตัวฟาฟร์ก็เป็นได้

  เกม Ruhr derby ที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการแย่งชิงแชมป์กันอยู่นั้น ท่ามกลางบรรยากาศที่อึดอัดจนรู้สึกแสบผิว แม้กระทั่งกุนซือผู้มากประสบการณ์ก็ตาม บางทีเขาก็ไม่อาจจะซุกซ่อนความวอกแวกในจิตใจได้เลย

ข่าวโดย นากาโนะ คิจิโนะสุเกะ

【Author Profile】
นากาโนะ คิจิโนะสุเกะ
เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม 1977 จังหวัดอากิตะ หลังจบการศึกษาสาขามนุษยศาสตร์ภาควัฒนธรรมตะวันตกที่มหาวิทยาลัยมุซาชิก็ตั้งใจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจึงย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน ในเดือนกรกฎาคมปี 2009 ได้ไลเซนส์ระดับ UEFA-A ของสมาคมฟุตบอลเยอรมันมาครอบครอง เริ่มสั่งสมประสบการณ์จาก SC Freiburg ชุด U-15 แล้วก็เริ่มทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการทีมชุด U-16 ของ FC Freiburg ที่เคยเล่นในบุนเดสลีกามาก่อน เขียนหนังสือ "ตำราฝึกฝนแชมป์โลกในแต่ละยุค" (KANZEN) และ "เด็กเยอรมันเล่นฟุตบอลโดยไม่มีกรรมการ" (Natsume-sha) ในช่วง Off-season กลับมาที่ญี่ปุ่นพร้อมกับเปิดค่ายอบรมในธีม "ค่ายฝึกฝน Grass root Leadership" "วิธีที่เข้าหากันด้วยฟุตบอลที่เหมาะสมของผู้ปกครองและลูก" และ "การสร้างเน็ตเวิร์คแห่งความร่วมมือในท้องถิ่น" 
【関連記事】

Facebookでコメント