จากนั้นทางหนังสือพิมพ์ก็ระบุถึงปัจจัยการนำเอานักเตะระดับโลกมาเข้าร่วมทีมที่มีผลอย่างมหาศาล

  "นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาทางเจลีกมีการดึงเอานักเตะอย่างเฟอร์นันโด ตอร์เรส, ลูคัส โพโดลสกี้, อังเดรส อิเนียสต้าและโทมัส เฟอร์มาเลินที่เป็นแข้งระดับแนวหน้าของยุโรปเข้ามาเสริมทัพ โควต้าแข้งต่างชาติที่มีเยอะสุดอย่างชาติบราซิลนั้นคุณภาพของพวกเขาก็สูงขึ้นอย่างเด่นชัด แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่เหล่านักเตะเติบโตไปพร้อมกับการยกระดับของเจลีกขึ้นอย่างมีความสอดคล้องในทำนองเดียวกัน การระเบิดศักยภาพออกมาได้นั้นคือความน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง"

  ก่อนหน้านี้เวลาเคลีกปะทะเจลีกทีไรจะเป็นการที่ฝั่งเคลีกสามารถกุมความได้เปรียบเอาไว้ กดดันอย่างหนักหน่วงแล้วก็แสดงออกถึงความหนักแน่นในการสังหารประตูจนคว้าชัยชนะ ทว่าในปัจุบันนี้ "พวกเขาคงไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับแรงกดดันจากเคลีกอีกแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีผู้สังหารประตูในระดับท็อปอยู่ในกรุอย่างมากมาย" นั่นคือความคิดเห็นของทางหนังสือพิมพ์ที่มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ทางเคลีกเอาชนะญี่ปุ่นไม่ได้

  จากนั้นก็ทิ้งทวนว่า "ในอดีตเคลีกเคยถูกเรียกเป็น "DNA ของ ACL" มาก่อน ทว่ากว่าจะรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นฝั่งของคู่แข่งไปเสียแล้ว หากยังล้าหลังต่อกระแสของเจลีกที่พุ่งทยานมาอย่างนี้ล่ะก็ การจะคว้าแชมป์เวทีเอเชียให้ได้ในฤดูกาลนี้นั้นก็คงกลายเป็นความฝันที่ลอยออกไปอย่างไกลโพ้นแล้วกระมัง" พวกเขาแสดงถึงสัญญาณเตือนภัยออกมาอย่างรวดเร็ว

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
อ้างอิงต้นฉบับ SPORTS SEOUL ภาคภาษาญี่ปุ่น

【VIDEO】แนวรุกมารินอสและโมเมนตัมของอิเนียสต้า! ไฮไลท์ศึกญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ทั้ง 3 นัดในช่วงต้นฤดูกาล ACL อยู่ที่นี่!