ฝั่งเจลีกนั้นเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างดุดันยอดเยี่ยม โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้การแข่งขัน ACL นัดที่ 2 ก็สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแชมป์ J1 อย่าง Yokohama F. Marinos และแชมป์ศึกชิงถ้วยพระราชทานอย่าง Vissel Kobe นั้นต่างก็คว้าชัยชนะ 2 นัดต่อเนื่อง ทางฝั่ง FC Tokyo ก็เริ่มต้นได้ดีที่ชนะ 1 เสมอ 1

  อีกฝั่งหนึ่ง สโมสรจากเกาหลีใต้ในศึก K-League ที่ต้องเจอกับกระแสกดดันจากญี่ปุ่นนั้นก็สัมผัสได้ถึงความหนักหน่วง โดยในปีนี้การแข่งขันศึกเกาหลีใต้-ญี่ปุ่นผ่านมาแล้ว 3 นัด ทางฝั่งเกาหลีทำผลงานได้เพียงแค่เสมอ 1 แพ้ 2 เท่านั้น ซึ่งหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ของประเทศอย่าง Sports Seoul ระบุว่า "จะหยุดยั้งกระแสของเจลีกไม่ได้เลยเหรอ? เหตุผลที่หืดจับใน ACL" เป็นการพาดหัวข่าวเช่นนั้นพร้อมกับลงรายละเอียดเนื้อข่าวดังนี้

  "เริ่มต้นจาก Ulsan Hyundai FC ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ FC Tokyo ทีมอุลซานตกเป็นฝ่ายเสียประตูก่อน หลังจากนั้นในช่วงท้ายเกมก็ได้ประตู Own Goal จนสามารถแบ่งแต้มเสมอ 1-1 ได้อย่างหืดจับ จากนั้นในวันต่อมาแชมป์เคลีก Jeonbuk Hyundai Motors FC ก็ปะทะกับ Yokohama F. Marinos การแข่งขันนัดนี้ดุดันมาก ครึ่งแรกทีมเสียประตูไปก่อนถึง 2 ลูก ท้ายที่สุดถึงจะทำประตูคืนมาได้ 1 ลูกแต่ก็ยังพ่ายไป(แพ้ 1-2) แต่หากไม่ได้ผู้รักษาประตู Song Bum-keun ช่วยเซฟเอาไว้ล่ะก็ทีมคงเสียประตูเยอะมากกว่านี้แน่ อัตราครองบอลแตกต่างกันอย่างล้นหลามที่ 38% ต่อ 62% การยิงเข้ากรอบที่ 3-10 จากนั้นในวันที่ 19 ก็เป็น Suwon Samsung Bluewings เจอกับ Vissel Kobe เกมนี้อัตราครองบอลอยู่ 35% ต่อ 65% ที่ด้อยกว่าเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วก็ตกเป็นชัยชนะของโกเบไปด้วยการเสียประตูในช่วงท้ายเกม"

  สโมสรฝั่งเคลีกนั้นเป็นเจ้าของสถิติแชมป์ ACL สูงสที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ 11 ครั้ง ทาง Pohang Steelers มีสถิติสูงสุดเท่ากับ Al-Hilal(ซาอุดิอาราเบีย)ที่ 3 สมัย ส่วนชอนบุกฮุนไดก็เป็นแชมป์ 2 สมัยด้วย ทว่านับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาผลงานก็ร่วงลงต่ำอย่างต่อเนื่อง

  กระแสในช่วงหลังมานี้ตกเป็นของทางฝั่งเจลีก ทีมญี่ปุ่นสามารถเข้าชิงต่อเนื่องได้ 3 สมัยซ้อนนับตั้งแต่ปี 2017-2019 เป็นต้นมา ในปี 2017 ทาง Urawa Reds คว้าแชมป์ได้ ส่วนในปี 2018 ก็เป็นทางฝั่ง Kashima Antlers ที่ครองแชมป์ การคว้าแชมป์ 7 สมัยนี้ทำให้ญี่ปุ่นเป็นรองแค่เกาหลีใต้เท่านั้น

 

  ทาง Sports Seouls ได้แสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดดังนี้

  "เริ่มต้นจากมีการคำนึงถึงความเหนื่อยล้าในการเดินทางไปแข่ง ACL จึงทำให้ทางเจลีกมีการจัดตารางการแข่งขันกันในวันศุกร์และอื่น ๆ เพื่อความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นผลของการทำสัญญาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกับทาง DAZN ในปี 2016 เป็นต้นมาก็ทำให้เกิดผลลัพธ์มหาศาล เม็ดเงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกว่า 210,000 ล้านเยน(ประมาณ 60 ล้านบาท) จะกระจายไปตลอด 10 ปี ซึ่งนั่นคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนความเรืองรองใน ACL กระมัง"