แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเบนท์เนอร์ที่อดทนต่อควาอยุติธรรมไม่ไหวจนมีปากเสียงกับอองรีนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็ยังมีปากเสียงกันต่อจนหยุดฝึกซ้อมลงกลางทาง
"อองรีเดินเข้ามาหาผม แล้วก็ขึ้นเสียงใส่ผมด้วยถ้อยคำต่าง ๆ นานา แต่ผมก็ไม่ถอย มันทำให้ผมเมินความจริงไปเลยว่าขณะนี้เกมในสนามกำลังดำเนินอยู่ เอาแต่ต่อปากต่อคำกับเขาเท่านั้น เสร็จแล้วก็ได้แอชลีย์ โคลและโซล แคมพ์เบลเข้ามาปราม "เกมยังไม่จบนะนิคลาส ปิดปากเงียบแล้วก็วิ่งซะ" เขาว่างั้นครับ"
「นายนั่นแหละที่ต้องเงียบ!」อดีตศูนย์หน้าแบ๊ดบอยแห่งอาร์เซนอลเปิดเผยความลับที่ทำให้เขามีเรื่องกับอองรีผู้ยิ่งใหญ่เมื่อ 14 ปีก่อน
カテゴリ:メガクラブ
2019/11/03
"โคลกับแคมพ์เบลเข้ามาปราม..."

เบนท์เนอร์ที่ปัจจุบันเล่นอยู่ในลีกประเทศบ้านเกิด อาชีพการค้าแข้งของเขาใกล้จะถึงจุดปลายทางแล้ว
(C) Getty Images
ภายหลังจากนั้นพวกรุ่นพี่ที่อยู่รอบ ๆ ก็เข้ามาตักเตือน "ผมเลยต้องจำยอมเจียมตัวไป มันทำอะไรนอกจากนั้นไม่ได้เลย" เบนท์เนอร์ระบุเช่นนั้น ทว่าเรื่องราวยังคงมีต่อ
"พอซ้อมเสร็จแล้วอองรีก็มาหาผม จากนั้นพวกเราก็พูดคุยกันเยอะมาก ตั้งแต่ห้องแต่งตัวไปจนถึงเลาจน์ของนักกีฬา บอกตามตรงเลยว่าผมไม่คิดว่าเขาจะรู้คำศัพท์อะไรเยอะขนาดนั้น พวกเราคุยกันเยอะมากจริง ๆ
มันเป็นการใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงกว่าจะไปจนถึงจุดที่จำเป็นที่จะไปให้ถึงให้ได้ แต่สำหรับผมแล้วมันก็คือช่วงเวลาที่มีเกียรติมาก เขาเป็นคนที่เอาใจใส่มากจริง ๆ อันที่จริงอองรีไม่จำเป็นต้องทำอะไรถึงขนาดนั้นเลย ผมเลยได้ซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างจากเขา สุดท้ายแล้วพวกเราก็กอดกันแล้วจบเรื่องจบราว"
ถ้อยคำของอองรีได้เปิดใจเบนท์เนอร์เด็กหนุ่มเลือดร้อนในวันนั้น ทว่าหากคำนึงถึงความประพฤติหลังจากนั้นของเขา รวมไปถึงเรื่องราวที่เรียกประเด็นมากมายที่ด้านนอกสนามนั้น ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า "โอวาท" ดังกล่าวนั้นมันช่วยได้จริง ๆ หรือไม่...
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest