ต่อไปจะเข้าสู่ช่วงตอบคำถาม

――ทำไมถึงตัดสินใจคุมทีมชาติไทย?

  "มันเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติมากเลยครับ ผมอยากจะฟังและอยากรู้จักให้มากขึ้น สำหรับผมแล้วการได้คุมทีมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสุขมาก ตอนนี้โอกาสก็มาอยู่ตรงหน้า ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเก็บเรื่องนี้เอามาคิดก่อนเพราะยังมีงานในประเทศอยู่ แต่พอเดินทางกลับมาถึงญี่ปุ่นแล้วก็มีข่าวออกมาว่าผมเซ็นสัญญาไปแล้วครับ ผมรู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่สามารถอธิบายออกมาจากปากของตัวเองในตอนนั้นได้ แต่ผมจะพยายามอย่างยิ่งเพื่อทำให้ไทยเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ครับ"

─―ทัศนวิสัยต่อจากนี้คือ?

  "ลำดับแรกเลยคือผมต้องทำความเข้าใจถึงสภาพปัจจุบันของวงการฟุตบอลไทยให้ได้ก่อนครับ ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างฤดูกาลอยู่ ผมอยากจะตรวจสอบสภาพปัจจุบันของนักเตะและกุนซือให้ได้ ยอมรับเลยครับว่าปริมาณงานมีเยอะมาก ผมไม่เคยมีประสบการณ์ที่ต้องทำงานกับล่ามมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นผมต้องวางตัวให้แน่นอนครับ คืออันที่จริงผมก็ไม่ได้คุ้นชินกับสภาพที่ไม่มีเวลา(เหมือนกับฟุตบอลโลกที่รัสเซีย)หรอกนะครับ(หัวเราะ) แต่ผมก็อยากจะทำให้แน่นอนให้ได้ครับ"

――เป้าหมายต่อจากนี้คือ?

  "เร็ว ๆ นี้ต้องเป็นศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในวันที่ 5 กันยายนเสียก่อน เมื่อดูทีมในรอบคัดเลือกแล้ว(ส่วนใหญ่เจอกับทีมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน)ก็เลยรู้สึกว่านี่ไม่ใช่รอบคัดเลือกธรรมดา ๆ แล้วครับ นัดเปิดสนามต้องเจอกับเวียดนามที่ไทยแพ้มาก่อนในคิงส์คัพ อยากจะจับแนวทางสู้ให้ได้ในรอบคัดเลือก จะมีการแข่งขันในเดือนกันยายน 2 นัดคือเจอเวียดนามหนึ่งนัดแล้วก็อินโดนีเซียอีกหนึ่งนัด อีกทั้งผมยังควบสองตำแหน่งด้วย จำเป็นต้องมีสมาชิกในทีมอย่างมากมาย นอกจากนั้นก็ยังรวมไปถึงทัวร์นาเมนต์ของจริงที่จะจัดในกรุงเทพ(เดือนมกราคม)ที่จะต้องตั้งเป้าถึงตรงนั้นด้วยครับ"

――มีความสุขที่ได้คุมทีมคือยังไงหรือ?

  "ไม่ใช่แค่ผมหรอกนะครับ สำหรับคนที่ได้เป็นผู้จัดการทีมนั้น ไม่มีอะไรมีความสุขนอกจากการได้บริหารทีมหรอกครับ การทำให้นักเตะยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้นภายใต้การดูแลของเรามันทำให้เรารู้สึกมีความสุขในฐานะที่เราเป็นโค้ชให้กับพวกเขา มันเป็นบุญมากจริง ๆ ที่ได้ไต่ไปถึงระดับสูงสุด ต่อให้มีไลเซนส์คุมทีมแต่ก็ใช่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ได้โดยง่ายหรอกนะครับ ไม่มีอะไรสุขไปกว่าการได้คุมทีมชาติอีกแล้ว เนื่องจากนี่คือการแข่งขันเพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีผลลัพธ์ออกมา ผมอยากจะยกระดับทีมและนักเตะขึ้นให้ได้ครับ"

――จะนำทีมไทยไปฟุตบอลโลกได้หรือไม่?

  "อยากจะพาไปให้ได้ครับ"

――จากประสบการณ์การคุมทีมที่มีโดยตลอดมาจะเอามาใช้กับทีมไทยอย่างไร?

  "การคุมทีมชาติของทุกชาติทั่วโลกนั้นจะมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ผมได้เรียนรู้อย่างมากมายในฐานะกุนซือมาก่อนแล้ว อย่างเช่นกุนซือของสเปนนั้น ตัวเองจำเป็นต้องมีความกลมกลืนกับนักเตะอีกด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ครับ จะพัฒนาทีมและนักเตะอย่างไร รวมทั้งยังมีเรื่องของ DNA จะจับสไตล์ของชาติและของทีมชาติออกมาอย่างไรด้วย เพราะฉะนั้นต้องควานหาให้เจอครับ เมื่อเจอแล้วก็ต้องสร้างทีมขึ้นโดยคอยคำนึงถึงเรื่องนั้นเสมอ สำหรับผมแล้วไทยยังเป็นแดนสนธยาที่ผมไม่รู้จักมาก่อน เพราะฉะนั้นผมทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อการต่อสู้ที่เฝ้ารอ(ในเดือนกันยายน)ครับ"

──ตอนที่ Halilhodžić มาคุมทีมชาติญี่ปุ่นนั้นมีปัญหาในการสื่อสารมาก คิดจะทำกับไทยอย่างไร?

  "ประเทศที่ชนะฟุตบอลโลกนั้นมีแต่ประเทศที่ใช้กุนซือในประเทศเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญคือความเชื่อมั่นของตัวนักเตะที่มีต่อกันและกันโดยการใช้พลังของวาจาในการสื่อสาร นั่นคือสิ่งที่ทำให้ได้เปรียบครับ ก็คงไม่สามารถถ่ายทอดลักษณะพิเศษของภาษาและความแม่นยำได้หมดหรอกนะครับ แต่ว่านี่คือฟุตบอล นี่คือลูกบอลที่กลิ้งไปมา ผมสัมผัสได้ว่าจะต้องสามารถสื่อสารเข้าถึงกันได้อย่างแน่นอนครับ"

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest