ในปี 2015 ซาลาห์ย้ายไปเล่นยืมตัวให้กับสโมสรโรม่า ในปีแรกเขาลงสนาม 42 นัดยิง 15 แอสซิสต์ 6 สร้างผลงานยอดเยี่ยมจนได้เป็น MVP ในฤดูกาลนั้นของทีม จนกระทั่งในฤดูกาล 2016-2017 ทางโรม่าก็ซื้อตัวขาด ซาลาห์ทำไปได้ทั้งสิ้น 19 ประตู ผลงานของเขายอดเยี่ยม

  สมัยที่ซาลาห์ค้าแข้งอยู่โรม่านั้น เขาต้องดวลกับกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นอย่างนากาโทโมะ ยูโตะ ที่ในสมัยนั้นยังสังกัดอยู่สโมสรอินเตอร์มิลานถึง 3 หน หากปีกขวาทีมชาติอียิปต์ได้ลูกเมื่อไร นากาโทโมะก็จะไล่ตามประกบติดทันที ซาลาห์ใช้ศูนย์ถ่วงตัวที่ต่ำในการเล่นงานริมเส้น เขาช่วยทั้งเกมรุกและรับของทีม

  หลังจากได้รับความชมเชยในฐานะผู้เล่นปีกในเวทียุโรป ฤดูกาล 2017 ซาลาห์ก็ถูกซื้อตัวมาอยู่กับสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งนั่นทำให้เหล่าโรมานิสต้า(แฟนโรม่า)ต่างก็เสียดายเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นใน 1 ปีให้หลังเขาก็ครองตำแหน่งดาวซัลโวด้วยการยิง 31 ประตูในพรีเมียร์ลีก จนทำให้ผู้คนพูดกันว่าค่าตัว 42 ล้านยูโรนั้นถูกเกินไปแล้ว
 

  ในเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนที่ลิเวอร์พูลต้องเจอกับถิ่นเก่าของซาลาห์อย่างโรม่านั้น ซาลาห์สร้างผลงานยอดเยี่ยม ยิง 2 แอสซิสต์ 2 ช่วยทีมถล่มโรม่ายับ การแสดงออกถึงความเติบโตต่อหน้าแฟน ๆ ทีมเก่านั้นก็เหมือนกับเป็นการตอบแทนบุญคุณในแบบฉบับของเขาก็ว่าได้กระมัง

  ซึ่งทางโรมานิสต้าก็สัมผัสถึงความมุ่งมั่นของเขา จึงไม่ได้มีการโห่ร้องต่ออดีตไอดอลของทีมตัวเอง แต่กลับเป็นการให้กำลังใจเพื่อให้เขาไปถึงจุดสูงสุดในยุโรปให้จนได้

  ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ตำนานมีชีวิตแห่งสโมสรโรม่าอย่างฟรานเชสโก้ ต็อตตินั้น หลังจากเขาแขวนสตั๊ดไป 2 ปีได้พูดถึงซาลาห์ดังนี้ว่า

  "ไม่ว่าจะเป็นนักเตะคนไหน ตอนร่ำลาก็รู้สึกเหงาทั้งนั้นแหละนะครับ แต่กับโมโม(ชื่อเล่นของซาลาห์)นั้นพวกเราไปกันได้ดีมาก ตอนที่มีการประกาศย้ายทีมอย่างเป็นทางการนั้นผมจึงเจ็บปวดมากเลย แต่สำหรับนักเตะอย่างเขานั้นเขาควรจะไปเล่นในจุดสูงสุดจึงจะดีกว่า ซาลาห์ตัดสินใจถูกแล้วครับที่ย้ายไปลิเวอร์พูล"

  เหล่าอดีตสหายร่วมรบต่างก็คอยเฝ้ามองซาลาห์ต่อไป เพราะฉะนั้นบุรุษที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจคนนี้นั้น เขาจะสามารถตอบรับความคาดหวังในเวทีที่แสนยิ่งใหญ่อย่างการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้หรือไม่

ข่าวโดย ยูเงะ ทาคาชิ