เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นกลายภาพข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส L’EQUIPE ฉบับเช้าตรู่วันที่ 6 เมษายน นั่นคือฉากที่สตีฟ มันดาด้านอนหงายเมื่อถูกยิงประตู ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้นก็เป็นคามาราที่ยืนช็อค แล้วก็ซาไกที่นั่งทรุด... โดยพาดหัวข่าวว่า "โซ่ตรวนสีดำ" 

  การให้คะแนนของ L’EQUIPE(คะแนนเต็ม 10) ก็ไม่มีความเกรงใจ ให้คะแนนกุนซือการ์เซีย คามารา อามาวีด้วย "2" แต้มดุจดั่งอาจญากรสงคราม ส่วนราโดนิช เชอร์ไมน์ โดแว็ง โลเปซได้ "3" คะแนน

  ส่วนซาไกนั้นได้ 4 แต้ม ซึ่งทางผู้ให้คะแนนระบุว่า "การแก้เกมด้วยการทะลวงทางฝั่งขวานั้นทำได้ดี ให้ความมั่นใจในฝั่งของตัวเองที่มีความเสถียรได้ แต่เมื่อเกมรุกของบอร์กโดซ์มาตรงกลางจึงทำให้ยากต่อการรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนิโคลัส เด เพรวิลเล่" 

  หลังการแข่งขันจบลง ผู้ที่ให้สัมภาษณ์ในพื้นที่มิกซ์โซนมีเพียงแต่โดแว็งและสโตรตมันเพียงเท่านั้น แถมสโตรตมันก็ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ แล้วเขาก็จากไป

  ส่วนโดแว็งนั้นก็ทิ้งภาพลักษณ์ของนักเรียนดีเด่นไปหมดเลย เขาพูดออกมาอย่างขวานผ่าซาก

  "การชิงโพเดี้ยมมันจบลงแล้ว(คว้าอันดับ 3 เพื่อ UEFA) ไม่ต้องโทษอะไรทั้งนั้น สรุปคือฤดูกาลนี้ทำได้ไม่ดี ต่อให้ได้ไปแชมป์เปี้ยนส์ลีกก็ตามแต่ก็ไม่รู้จะโชว์อะไรออกมาได้ มันก็เท่านั้นเอง

  จะตอนไหนมันก็ยังเหมือนเดิม เหตุการณ์วนเวียนซ้ำเดิมในทุกปี เมื่อถูกปลดกุญแจมือแต่เมื่อจบฤดูกาลก็ทำอะไรขึ้นมาไม่ได้ ในนัดที่จำเป็นต้องคว้าชัยก็ทำอะไรไม่ได้ มีแต่ข้อผิดพลาด สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คือการปิดปากเงียบแล้วแบกความรับผิดชอบขึ้นบนบ่า พวกเรามันไม่ได้เรื่องเลย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องยอมรับให้ได้"

  หลังการแข่งขันจบลง รายการดีเบตชื่อดังอย่าง L’EQUIPE DU SOIR ก็ยังมีการพูดคุยกันในรายการว่า "จากนี้ต่อไปมาร์กเซยจะคว้าแม้กระทั่งโควต้ายูโรป้าได้หรือไม่ ถ้าสภาพแบบนี้พูดตามตรงเลยว่ายังยากมาก" (โดย Guy Roux) "เป็นความผิดของการ์เซีย 300% เลยนัดนี้" (โดย Gilles Favard) "กุนซือยังพยายามหาฟอร์มเยี่ยมของทีมต่อไป แต่ถ้าหาไม่เจอล่ะก็..." (โดย Alain Giresse) พวกเขาต่างก็ตั้งเครื่องหมายสงสัยกับประเด็นดีเบตดังกล่าว

  กับสโมสรมาร์กเซยที่อย่าว่าแต่แชมป์เปี้ยนส์ลีกเลย แค่ที่นั่งยูโรป้า(อันดับ 4)ก็ยังยากในตอนนี้ มีความเป็นไปได้ว่าหลังจบฤดูกาลจะมีการ "ทำความสะอาดครั้งใหญ่" เกิดขึ้น การใช้จ่ายในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาถึง 78 ล้านยูโรก็ทำให้เกิดงบขาดดุล มิหนำซ้ำการมาของตัวบาโลเตลลี่อาจเป็นผลให้นักเตะคนอื่นต้องเรียกร้องขอค่าเหนื่อยเพิ่ม เหล่ากองเชียร์ก็ใกล้จะถึงจุดเดือดเต็มทน เก้าอี้ของกุนซืออย่างการ์เซียและ Sporting Director อย่าง Andoni Zubizarreta ก็น่าจะร้อนไม่เบา

  ส่วนสภาพของซาไกนั้นในตอนนี้เขายังไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกปลดแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าตัวก็พูดด้วยว่า "อยากจะอยู่กับมาร์กเซยต่อ" อีกด้วย เขาได้รับการสนับสนุนจากแฟน ๆ

  แต่ก็ไม่มีใครทราบได้ว่า "ภูเขาไฟมาร์กเซย" จะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อการแข่งขันในฤดูกาลนี้จบลง เพื่อป้องกันไม่ให้มันปะทุขึ้นมานั้น นักเตะแต่ละคนต้องพร้อมสู้ในสนามอย่างสุดชีวิตโดยไม่กลัวตาย อย่างน้อยที่สุดก็ต้องคว้าที่นั่งยูโรป้าให้ได้เพื่อซื้อใจของกองเชียร์ทีมตัวเองมาให้ได้

ข่าวโดย ยูกิ มาริ