วันที่ 5 เมษายนเวลา 20.40 ช่องโทรทัศน์ Canal+Sport ที่ฉายภาพการแข่งขันคู่ Bordeaux ปะทะ Marseille ออกมานั้น ภาพแรกที่ฉายออกมาในค่ำคืนคือภาพใบหน้าของกองหลังอายุ 19 ปี บูบาคาร์ คามาราและซาไก ฮิโรกิ
หากตัดการแข่งขันในเกมที่เจอกับ PSG ออกไป ช่วงหลังที่ผ่านมานี้เกมรับของมาร์กเซยถือว่ามีเสถียรภาพมาก แต่การขาดกำลังสำคัญอย่างพวกเขาทั้งสองคนในเกมที่เจอกับ Angers ที่ผ่านมาเป็นผลให้ทีมตกอยู่ไปอันดับที่ 5 เพราะฉะนั้นความคาดหวังที่มีต่อพวกเขานั้นจึงสูงเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซาไกนั้นมีอยู่อย่างสูงมาก ระหว่างที่กองหลังทีมชาติญี่ปุ่นพักไปช่วยเกมกับทีมชาติที่ศึกเอเชียนคัพนั้นทีมมาร์กเซยชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ถึง 3 สถานการณ์ของทีมตกต่ำถึงขั้นว่ากองเชียร์เจ้าถิ่นกดดันให้ปลดตัวกุนซืออย่างรูดี การ์เซียด้วยซ้ำไป
พอซาไกกลับมาจาก UAE ในตอนนั้นทีมก็คว้าตัวมาริโอ บาโลเตลลี่มาได้ในช่วงตลาดซื้อขายฤดูหนาว จึงทำให้ฟอร์มของทีมกลับมาอีกครั้ง ด้วยโอกาสที่ประจวบเหมาะและลงล็อคนั้นจึงทำให้มีแฟน ๆ เป็นจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า "ชัยชนะของทีมขึ้นอยู่กับซาไก" เลยก็ว่าได้
ทว่าซาไกก็ไม่อาจทลายคำสาปที่มีอยู่อย่างยาวนานถึง 42 ปีได้แต่อย่างใด
「พวกเรามันไม่ได้เรื่อง」แม้ซาไก ฮิโรกิจะกลับมาแต่มาร์กเซยก็พลาดโอกาสลุ้นที่นั่งแชมป์เปี้ยนส์ลีกไปแล้ว———เพื่อนนักเตะวิจารณ์ทีมหนัก【สดจากสนาม】
カテゴリ:海外日本人
2019/04/07
ผลงานของซาไกไม่ได้แย่เลย
นับตั้งแต่เอาชนะบอร์กโดซ์ในวันที่ 1 ตุลาคมปี 1977 เป็นต้นมานั้น ตลอด 42 ปีที่ผ่านมามาร์กเซยไม่เคยเก็บชัยชนะได้อีกเลย เพราะฉะนั้นการแข่งขันในนัดนี้จึงน่าจับตามองมากเนื่องจากบอร์กโดซ์นั้นกำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมใหม่ หากสามารถขับร้องบทเพลงแห่งชัยชนะได้ในประตูนรกแห่งนี้ล่ะก็ โอกาสที่จะคว้าเก้าอี้ UEFA Champions League ในฤดูกาลหน้าก็จะเพิ่มสูงขึ้น
แต่แล้วบทสรุปก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
อันที่จริงผลงานของซาไกก็ไม่ได้แย่อะไร เขาคอยป้องกันเกมรุกที่แสนดุดันของบอร์กโดซ์ตั้งแต่ช่วงต้นเกม การเตะมุมนาทีที่ 7 ของดิมิทรี่ พาเยตที่เปิดให้เชอไมน์โหม่งนั้นก็หลุดกรอบประตูไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ในนาทีที่ 10 ซาไกก็ดันไปในฝั่งขวาแล้วเปิดลูกสวย ๆ ให้กับเควิน สโตรตมันจนยิงวอลเลย์ได้
ผู้บรรยายอย่างอาวิบ ไบยูถึงกับพูดเลยว่า "ซาไกเล่นเกมรุกได้ดุดันมาก" แม้นักเตะเก่าของมาร์กเซยที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีสีปากที่จัดจ้านนั้น เขาก็ยังอุตส่าห์กล่าวชมเจ้าของเสื้อหมายเลข 2 ออกมาเป็นอย่างยิ่ง แม้กระทั่งจังหวะเหลือเชื่อในครึ่งหลังด้วย
นาที 56 ซาไกเปิดลูกย้อนกลับมาให้กับวาเลเร่ เชอร์ไมน์แต่โดนเข้าอินเตอร์เซปต์ ซึ่งผู้บรรยายก็ระบุว่า "ซาไกคงเจ็บใจมาก" โดยทางไบยูถึงกับพูดถึงการเคลื่อนไหวของซาไกว่า "หัวใจของซาไกดุจดั่งเจเนโรอิเต้จริง ๆ(ผู้มีจิตใจกว้างขวาง)" เป็นการกล่าวชมในแง่บวกอย่างยิ่ง
แต่มาร์กเซยก็เสียไป 2 ประตูจากการสังหารจุดโทษที่เกิดจากการทำแฮนด์บอลและการที่จอร์แดน อามาวีเสียการครองบอลจนเป็นผลให้เกิดเกมรุกสวนกลับ ซึ่งในจังหวะนั้นความเร็วของ Nicolas de Préville นั้นก็มีมากเหลือเกินจนคามาราไม่สามารถหยุดเอาไว้ได้ ซาไกแม้จะวิ่งกลับมาช่วยเสริมอย่างสุดชีวิตแล้วก็ตามแต่ก็ไม่อาจต้านทานได้อยู่ดี