Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • เมสซี่ผู้เดียวดายในวัย 18 ปีนั้น แม้ 13 ปีจะผ่านไปเขาก็ยังคง "เดียวดาย" เหมือนเดิม――【South America Football Photo Column】

เมสซี่ผู้เดียวดายในวัย 18 ปีนั้น แม้ 13 ปีจะผ่านไปเขาก็ยังคง "เดียวดาย" เหมือนเดิม――【South America Football Photo Column】

カテゴリ:ワールド

ハビエル・ガルシア・マルティーノ

2019/04/01

เมสซี่จะจบตำนานของเขาลงด้วยการเป็น "วีรบุรุษเดียวดาย" แบบนี้หรือไม่

เพเคอร์แมนผู้หรี่ตาเพ่งมองเมสซี่ที่เดาะบอลอยู่คนเดียว หนึ่งในกุนซือที่โดดเด่นที่สุดในวงการลูกหนังสมัยนั้นอย่างเขานั้น อาจจะมองเห็นพลังแห่งอัจฉริยะภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวของเมสซี่นับตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็เป็นได้

(C) Javier Garcia MARTINO

画像を見る

  หนึ่งปีต่อมาหลังจบฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ผมก็ได้รับโอกาสพิเศษที่ได้อยู่กับเมสซี่ตัวต่อตัวในศึก Copa América ที่เวเนซูเอลา

  ผมได้รับการว่าจ้างจากนิตยสารกีฬาในอาร์เจนติน่าให้ถ่ายทำ Photo Session ที่โรงแรมในเมือง Maracaibo ที่นักเตะอาร์เจนติน่าพักอาศัย แม้ขณะนั้นจะเป็นเวลาดึกดื่น แต่แม้จะถ่ายรูปเสร็จแล้วเมสซี่ก็ยังไม่ไปไหน พวกเราเลยได้คุยเรื่องเรื่อยเปื่อยกันในช่วงเวลาหนึ่ง

  หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปรอบล็อบบี้ บางทีเจอแฟนเรียกก็หยุดขอถ่ายรูปและแจกลายเซ็นบ้าง เขาไม่มีแนวโน้มที่จะกลับห้องพักของตัวเองเลย

  ซึ่งภาพของเขาในวันนั้นมันก็ซ้อนทับกับเหตุการณ์ในแคมป์เก็บตัวที่เยอรมันเมื่อ 1 ปีก่อนได้อย่างพอดิบพอดี แม้ผู้จัดการทีมจะส่งไม้ต่อไปให้กับ Alfio Basile ก็ตาม แต่เมสซี่ก็ยังเข้ากับทีมชาติไม่ได้ จนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้เหลือเกินว่าเขาอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกเหงาหรือเปล่านะ

  หลังจากนั้นเมสซี่ก็ได้รับมอบหมายตำแหน่งเป็นกัปตัน วันวานผ่านพ้นไปเขากลายเป็นศูนย์กลางของทีมทั้งในและนอกสนาม ภาพลักษณ์ของเขาที่ทำให้ผมรู้สึกกังวลในเมือง Maracaibo เมื่อวันวาน มันก็กระจายหายไปทันทีเมื่อเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกที่บราซิลในปี 2014 ผมรู้สึกดีใจมากเหลือเกิน

  แต่แล้วเมื่อเกมกระชับมิตรในไม่กี่วันที่ผ่านมา(22 มีนาคมกับเวเนซูเอลา)มันก็ทำให้ผมเห็นภาพของเมสซี่ที่กลับมาเดียวดายอีกครั้งหนึ่งแล้ว

  หลังจากห่างเหินกับทีมชาติไปนานถึง 8 เดือนนั้น พรรคพวกที่เล่นด้วยกันมาก่อนก็หายจากไป เมสซี่ที่กลับมาเข้าทีมอีกครั้งเขาดูสับสน เห็นได้ชัดเลยว่าเขาอยู่เดียวดายบนพื้นสนามหญ้า

  ในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ต้องเจอกับทีมชาติเยอรมันในฟุตบอลโลกปี 2006 นั้น ผมคิดว่าการที่กุนซือในเวลานั้นอย่างเพเคอร์แมนให้เมสซี่นั่งสำรองอย่างเดียวแล้วตัดสินใจส่งรีเควลเม่ลงสนามแทนเขานั้นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ แต่สมมติว่าหากเพเคอร์แมนยังคงคุมทีมชาติอาร์เจนติน่าต่อไปล่ะก็ ผมก็คิดว่าเมสซี่คงไม่เดียวดายเหมือนเช่นนี้อีกต่อไปแน่

  เมื่อผมเอาภาพที่ถ่าย ณ Herzogenaurach เมื่อวันวานกลับมาดูอีกรอบนั้น ก็ได้แค่คาดหวังวิงวอนอยู่ในใจว่าเมสซี่จะไม่จบตำนานของเขาด้วยการกลายเป็น "วีรบุรุษผู้เดียวดาย" แต่อย่างใด

ข่าวโดย Javier Garcia MARTINO
แปลโดย Chizuru de GARCIA

Facebookでコメント