จากน้องใหม่ที่มีผลงานโดดเด่นจนปัจจุบันนี้ก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ได้รับความยำเกรงจากรอบข้างจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนเมสซี่ก็ยังเดียวดายในทีมชาติอาร์เจนติน่าเสมอ

  อันที่จริงสถานการณ์ดังกล่าวนี้ทางสมาพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนติน่าต้องให้การสนับสนุนเมสซี่แล้ว ทว่าพวกเขาก็เห็นแค่เมสซี่เป็นเหมือนวัตถุที่ทำให้ทางสมาพันธ์ได้เงินเพิ่มขึ้นเพียงเท่านั้น นอกจากนั้นทางตัวกุนซือผู้คุมทีมชาติก็ถูกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลเป็นต้นมานั้น ก็มีตั้งแต่ Gerardo Martino, Edgardo Bauza, Jorge Sampaoli ส่วนคนสุดท้ายนี้ก็เป็น Lionel Scaloni แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีการเปลี่ยนตัวกุนซือไปถึง 4 รอบ

  ในทีมชุดที่เจอกับเวเนซูเอล่าที่ผ่านมานั้น มีนักเตะถึง 7 คนที่เมสซี่ไม่เคยเล่นด้วยแม้แต่ครั้งเดียว (Leandro Paredes, Giovani Lo Celso, Lisandro Martínez, Lautaro Martínez, Pity Martinez, Juan Marcos Foyth, Gonzalo Montiel) การที่เมสซี่ต้องบุกสู้เพียงตัวคนเดียวนั้นก็เป็นสภาพที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์กับทีมชาติที่เป็นอย่างไรบ้าง

  แม้การตำหนิอย่างรุนแรงอย่างพาสซาเรลล่านั้นจะยังมีอยู่ก็ตาม แต่นับตั้งแต่เมสซี่เล่นให้กับทีมชาติเป็นต้นมานั้นเขาก็กลายตัวความหวังของคนรอบข้าง จนทำให้เขาถูกตำหนิมาโดยตลอด แม้จะคอยเล่นทุ่มเทให้กับทีมอย่างเต็มที่ แต่ถึงเวลาจะผ่านไป 9 เดือนสถานการณ์ทุกอย่างก็ยังไม่อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นเลย

  เมื่อลองย้อนนึกดูแล้วก็พบว่าทีมชาติอาร์เจนติน่านั้นเหมือนเป็นสถานที่แห่งความชอกช้ำของเมสซี่โดยตลอดมา ซึ่งตัวของเมสซี่ผู้เป็นหัวหอกที่ไม่อาจหาใครมาเทียบเคียงได้และรู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจดีนั้น เขาก็ยังตัดสินใจที่จะเผชิญหน้าและรับคำท้าใหม่อีกครั้ง

ข่าวโดย ดิเอโก้ ตอร์เรส (El País)
แปลโดย: ชิโมมูระ มาซายูกิ
※Soccer Digest คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจากหนังสือพิมพ์ El País แต่เพียงผู้เดียวในประเทศญี่ปุ่น