ปกติแล้วลิโอเนล เมสซี่เป็นนักเตะที่มักไม่พูดถึงการทำงานของกุนซือแต่อย่างใด ไม่ว่าจะทั้งในบาร์ซ่าหรือในเกมกับทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วย
ทว่าหลังการแข่งขันเกมลาลีก้านัดที่ 28 จบลง เมสซี่ผู้ยิงแฮททริกในเกมเจอกับเบติสจนเอาชนะไปได้ 4-1 นั้นเขาพูดถึงตัวของกุนซืออย่างเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้หลังจบการแข่งขัน เมสซี่ระบุว่าการเล่นแผน 4-4-2 ที่เพิ่มอีกหนึ่งหมากในแดนกลางนั้นเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมสามารถคุมเกมในการเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจอย่างเรอัลเบติซได้ ซึ่งเขาถึงกับกล่าวชมว่ากลยุทธ์ในเกมนี้ว่า "เพอร์เฟค" เลยทีเดียว
ในฤดูกาลนี้ซุปเปอร์สตาร์แห่งคัมป์นูเป็นผู้นำในเกมรุกของทีม เป็นกัปตันของทีม ยิ่งเวลาผ่านไปเขายิ่งโชว์ฟอร์มได้ดีมากยิ่งขึ้น ว่ากันว่าผลพวงเหล่านั้นก็มาจากสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเขากับตัวกุนซือนั่นเอง
บัลเบร์เด้เป็นคนที่ไม่อวดเบ่ง ไม่ยกเอาผลงานที่ผ่านมาออกมานำเสนอทั้งสิ้น เขาไม่ได้ใช้กลยุทธ์ของตัวเองเพื่อคุมทีมเหมือนดั่งเช่นโยฮันน์ ไครฟ์หรือเป๊ป กวาดิโอลาร์ เขาไม่ได้เชิดชูสามประสาน MSN ให้เป็นหัวใจสำคัญเหมือนดังเช่นลูอิส เอนริเก้
เขาเป็นคนที่แสดงความเคารพต่อศัตรูและพันธมิตรอยู่เสมอ เป็นคนที่วางตัวถ่อมตนทั้งในและนอกสนาม สิ่งที่เขาทำมีเพียงแต่ใช้สายตาเพ่งมองถึงโอกาสที่จะคว้าชัยชนะออกมาและดึงเอาศักยภาพของนักเตะออกมาให้ได้อย่างสูงที่สุด ซึ่งนั่นต้นกำเนิดของเขา
การปฏิบัติที่มีต่อเมสซี่ก็เช่นกัน เขาไม่เหมือนกุนซือคนอื่นที่ยกยอเอาความยิ่งใหญ่ของเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 มาพูดในงานแถลงข่าว สาเหตุที่หัวหอกคนสำคัญชื่นชมกุนซือบัลเบร์เด้อย่างนั้นก็เพราะด้วยบุคลิกความตรงไปตรงมาและความถ่อมตนนั่นเอง
【สดจากสนาม】เมสซี่ชมกุนซือบัลเบร์เด้ "เพอร์เฟค" ความแตกต่างของเขากับกุนซือในอดีตคือ?
カテゴリ:ワールド
2019/03/24
ความสัมพันธ์ระหว่างกุนซือกับหัวหอกเป็นไปได้อย่างราบรื่น

เมสซี่ผู้ถูกแต่งตั้งเป็นกัปตันบาร์ซ่าในฤดูกาลนี้ สายสัมพันธ์ระหว่างเขากับกุนซืออย่างบัลเบร์เด้(คนซ้าย)เป็นไปได้ดี
(C) Getty Images
นานมากแล้วที่ไม่ได้พูดว่าเมสซี่เป็นศูนย์กลางของบาร์ซ่า ซึ่งนั่นก็เพราะนักเตะกระดูกสันหลังหลักของบาร์ซ่าหลายคนไม่ว่าจะเป็นคาลอส ปูโย, วิกตอร์ บัลเดซ, ซาบี้และอังเดรส อิเนียสต้าได้ออกจากทีมไปแล้ว นั่นจึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ภาระความรับผิดชอบของเมสซี่ต้องเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เมสซี่ถูกมอบหมายตำแหน่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "หมายเลข 7" "False 9" "เขี้ยวของตรีศูล" ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่านับตั้งแต่เขาเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่เขาก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีม นอกจากนั้นในฤดูกาลนี้เขายังมีภาระความรับผิดชอบในฐานะผู้นำของทีมมากยิ่งขึ้น หนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญคือการประกาศว่า "จะกลับมาทวงถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง" ภายในศึกชิงถ้วย Joan Gamper ในช่วงเดือนสิงหาคมของปีก่อน
บัลเบร์เด้เป็นคนวางกลยุทธ์โดยละเอียด ซึ่งเมสซี่ก็ปฏิบัติตามกลยุทธ์เกมรุกของกุนซือด้วยความเชื่อใจที่มีอย่าง 100% และนั่นก็เป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้บาร์ซ่าแสดงความแข็งแกร่งออกมาเพื่อจะคว้า 3 แชมป์มาครองให้ได้ในฤดูกาลนี้
เมสซี่ถูกมอบหมายตำแหน่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "หมายเลข 7" "False 9" "เขี้ยวของตรีศูล" ซึ่งนั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่านับตั้งแต่เขาเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่เขาก็กลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีม นอกจากนั้นในฤดูกาลนี้เขายังมีภาระความรับผิดชอบในฐานะผู้นำของทีมมากยิ่งขึ้น หนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญคือการประกาศว่า "จะกลับมาทวงถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง" ภายในศึกชิงถ้วย Joan Gamper ในช่วงเดือนสิงหาคมของปีก่อน
บัลเบร์เด้เป็นคนวางกลยุทธ์โดยละเอียด ซึ่งเมสซี่ก็ปฏิบัติตามกลยุทธ์เกมรุกของกุนซือด้วยความเชื่อใจที่มีอย่าง 100% และนั่นก็เป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้บาร์ซ่าแสดงความแข็งแกร่งออกมาเพื่อจะคว้า 3 แชมป์มาครองให้ได้ในฤดูกาลนี้