บางทีก็อาจจะมีมุมมองว่านักเตะไม่ได้เติบโตไปตามที่คิดเอาไว้ ทว่าก็ยังมีหนึ่งประเด็นที่ต้องขบคิดให้ได้ว่าจะต้องเตรียมการรับมืออย่างไรเพื่อให้กลุ่มนักเตะเหล่านี้พัฒนาขึ้นมาอีกด้วย

  ตัวอย่างเช่นการคว้ามิดฟิลด์ทีมชาติแคนาดาในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวที่ผ่านมาอย่าง Alphonso Davies มาจากสโมสร Vancouver Whitecaps นั้นถือเป็นค่าตัวที่สูงบ้าบิ่นเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับระดับแนวหน้า

  ทางสปอร์ตไดเรกเตอร์อย่าง Hasan Salihamidžić ได้ระบุเอาไว้ว่า "เขาเป็นเพชรที่รอการเจียระไน เขาฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งมาก เป็นคนที่ทุ่มเทเสมอ การฝึกซ้อมของเขาในแต่ละวันนั้นแสดงถึงศักยภาพดังกล่าวออกมา ท่ามกลางนักเตะที่ผมเห็นมาตลอดนั้นเขาเป็นนักเตะที่รวดเร็วที่สุดอีกหนึ่งคน บางทีเขาอาจจะมีความไวที่สุดในบุนเดสลิก้าแล้วก็เป็นได้" เป็นการระบุถึงความเป็นไปได้นับอนันต์จากความรวดเร็วของเขา

  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเติบโตนั้นคือเวลาที่ได้เผชิญหน้ากับตัวเองและโอกาสลงเล่นเพื่อสะสมประสบการณ์ ทว่าสิ่งนั้นจะเป็นบาเยิร์นในปัจจุบันนี้ได้หรือไม่

  บาเยิร์นมีทีมชุดสำรองจริงแต่เป็นทีมในลีก 4 สำหรับสโมสรที่เล็งจะคว้าถ้วยยุโรปมาให้ได้ในทุกปีนั้นก็บ่งบอกได้เลยว่าลีก 4 ไม่เพียงพอที่จะทำให้นักเตะสามารถฟูมฟักความสามารถได้

  ฟิลลิป ลาห์มเขาสั่งสมประสบการณ์มาจากสโมสรผู้ชำนาญสนามในลีก 1 จาก Stuttgart โทนี่ โครส ก็เล่นให้กับสโมสรเลเวอร์คูเซนที่ลงแข่งถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกเป็นประจำอยู่แล้ว ด้วยการมีเส้นทางที่ปูเอาไว้ให้ตัวจริงอย่างพวกเขาที่เหมาะสมนั้นจึงทำให้พวกเขาสามารถยกระดับแข้งของตัวเองขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

  ทว่าในสภาพปัจจุบันนี้ตอนนี้ อย่าง Serge Gnabry ก็ถือว่าใช่กระมัง บาเยิร์นทำการคว้าตัวมาจากเบรเมน หลังจากนั้นก็ส่งไปให้สโมสร Hoffenheim ยืมตัว ในตอนนี้เขาก็กลายเป็นขุมกำลังยุคใหม่คนสำคัญของบาเยิร์น แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าสภาพแบบนี้จะยั่งยืนยาวนาน

  ยิ่งทีมอยู่ในช่วงผลัดรุ่นแบบนี้ เพราะฉะนั้นการวางแผนเพื่ออนาคตนั้นจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อการนั้นแล้วการคว้าตัวนักเตะ การฟูมฟักนักเตะและการพัฒนานักเตะนั้นต้องควบคู่กันต่อไป หลังจากนั้นก็เฟ้นหาความลงตัวที่เหมาะสมที่สุด กว่าทั้งหมดทั้งปวงจะเสร็จสมบูรณ์นั้นคงกินเวลาหลายปี จากนั้นคงทำให้บาเยิร์นก้าวไปสูงขึ้นทีละขั้นสองขั้นกระมัง

ข่าวโดย นากาโนะ คิจิสุเกะ

【Author Profile】
นากาโนะ คิจิโนะสุเกะ
เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม 1977 จังหวัดอากิตะ หลังจบการศึกษาสาขามนุษยศาสตร์ภาควัฒนธรรมตะวันตกที่มหาวิทยาลัยมุซาชิก็ตั้งใจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจึงย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน ในเดือนกรกฎาคมปี 2009 ได้ไลเซนส์ระดับ UEFA-A ของสมาคมฟุตบอลเยอรมันมาครอบครอง เริ่มสั่งสมประสบการณ์จาก SC Freiburg ชุด U-15 แล้วก็เริ่มทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการทีมชุด U-16 ของ FC Freiburg ที่เคยเล่นในบุนเดสลีกามาก่อน เขียนหนังสือ "ตำราฝึกฝนแชมป์โลกในแต่ละยุค" (KANZEN) และ "เด็กเยอรมันเล่นฟุตบอลโดยไม่มีกรรมการ" (Natsume-sha) ในช่วง Off-season กลับมาที่ญี่ปุ่นพร้อมกับเปิดค่ายอบรมในธีม "ค่ายฝึกฝน Grass root Leadership" "วิธีที่เข้าหากันด้วยฟุตบอลที่เหมาะสมของผู้ปกครองและลูก" และ "การสร้างเน็ตเวิร์คแห่งความร่วมมือในท้องถิ่น"