ด้วยความกังวลต่อขุมกำลังนักเตะหลักที่เริ่มเข้าสู่วัยโรยราแล้วนั้น ทางประธานสโมสรบาเยิร์นมิวนิกอย่างอูลี เฮอเนสได้กล่าวเอาไว้ในงานแถลงหลังการก่อตั้งอคาเดมีของสโมสรขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2017 ว่า "นี่จะกลายเป็นถิ่นฐานสำคัญในการบ่มเพาะเพื่ออนาคตของบาเยิร์น ซึ่งนี่ถือเป็นความขัดแย้งที่ตรงข้ามกับกระแสในปัจจุบันที่เงินการทุ่มซื้อตัวนักเตะจะเริ่มเฟ้อขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นสำหรับคำตอบของพวกเรานั้นนี่คือการลงทุนเพื่อการบ่มเพาะ" เขากล่าวอธิบายเช่นนั้น
แต่ในอีกมุมหนึ่งของบาเยิร์นที่เป็นดั่งผู้นำในแวดวงฟุตบอลของเยอรมัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาบาเยิร์นมิวนิกมี "เกณฑ์ขั้นต่ำ" ที่จะต้องเป็นผู้คว้าแชมป์รายการต่าง ๆ นานาและไปให้ถึงจุดสูงสุดของ UEFA Champions League เสมอ
จึงทำให้ไม่อาจที่จะใช้เวลาค่อย ๆ บ่มเพาะนักเตะได้ โดยผลลัพธ์แล้วจึงทำให้เฟ้นหานักเตะอายุน้อยที่มีความสามารถและผลงานในระดับหนึ่งจากในท้องตลาดมาแทน ซึ่งนั่นกลายเป็นมาตรการสำคัญที่บาเยิร์นใช้ในการเสริมทัพให้กับทีมมาตลอดเวลา
การเสริมทัพครั้งใหญ่อาจช่วยได้จริง แต่สำหรับทีมยักษ์ใหญ่อย่างบาเยิร์นที่ถึงช่วงเปลี่ยนยุคแล้วนั้น... ควรทำอะไรบางอย่างเพื่ออนาคตแล้ว【สดจากสนาม】
カテゴリ:連載・コラム
2019/03/22
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาคือไม่มีการเสริมสร้างนักเตะเยาวชน...

แนวทางของบาเยิร์นในช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นก็มีการคว้าตัวนักเตะที่มีศักยภาพจากในประเทศหรือทุ่มซื้อตัวนักเตะเก่ง ๆ จากต่างชาติ ซึ่งหากคำนึงถึงประเด็นดังกล่าวเช่นนั้น บางทีสโมสรก็ควรยึดถือตามแนวทางที่กลายเป็นประเพณีไปแล้วแบบนี้ต่อไปดีหรือไม่ นักเตะในรูปจากด้านขวาคือเลวานดอฟสกี้, โบเต็ง, ฮาเมซและกนาบรี้
(C) Getty Images
ทว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางประธานเฮอเนสได้ระบุถึงฤดูกาลหน้าว่า "เตรียมทุ่มเสริมทัพยกใหญ่" ไม่ใช่เฉพาะนักเตะอายุน้อยเท่านั้น เขายังคิดจะคว้าเอาตัวนักเตะผู้มากฝีมือที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกมาเข้าสู่ทีมด้วย
ทาง Bild ระบุว่า นอกจากจะคว้าตัว Benjamin Pavard กองหลังจากสโมสร Stuttgart มาได้เรียบร้อยแล้วนั้นก็ยังมีกองหลังจากแอตเลติโกมาดริดอย่าง Lucas Hernandez ตัวรุกสุดจี๊ดอายุน้อยสัญชาติไอวอรี่โคสต์อย่าง Nicolas Pépé จากสโมสร Lille แล้วก็กองหน้าตัวเก่งที่เพิ่งติดทีมชาติอังกฤษใหม่สด ๆ อย่าง Callum Hudson-Odoi มาจากสโมสรเชลซีอีกด้วย
พร้อมทั้งยังมีการใส่ชื่อของ Timo Werner(RB Leipzig) Julian Brandt และ Kai Havertz จากสโมสรเลเวอร์คูเซ่นเข้าในลิสต์นักเตะที่เตรียมซื้อ
ณ จุด ๆ นี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นจะเป็นจริงและเกิดขึ้นเมื่อไรกันแน่ หากทุกอย่างไปได้สวยก็คงดีกับบาเยิร์นไม่น้อยเลย แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นทางสโมสรจึงต้องเตรียมการรับมือดังกล่าวนี้ควบคู่ไปกับการเสริมทัพด้วย บางทีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอาจจะเป็นการวางแผนพัฒนาตัวนักเตะที่ "ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีผลงานมากนัก แต่จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในอนาคต" ว่าจะทำให้พวกเขาเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นแม้จะคว้าตัวนักเตะที่มีความสามารถมาได้แต่ก็ไม่สามารถบ่มเพาะได้ ทั้งยังมีนักเตะหลายคนที่ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้มากนัก จึงทำให้ซื้อมาแล้วก็รีบเทขายอยู่หลายครั้ง
ไม่มั่นใจว่าผู้อ่านยังจดจำนักเตะอย่าง Gianluca Gaudino ในสมัยที่เป๊ปเข้ามาคุมทีมได้หรือไม่ ในฤดูกาล 2014-2015 นั้นเขาถูกส่งลงสนามในเกมที่เจอกับ Wolfsburg ว่ากันว่าคือ "ว่าที่นักเตะตัวจริง" แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามอีกเลย ตอนนี้ย้ายไปเล่นอยู่กับสโมสร Young Boys ที่สวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว
หรือจะเป็นอย่าง Sinan Kurt ที่ในยุคหนึ่งเขาถูกเรียกขานเป็น "หนึ่งในผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในวงการฟุตบอลเยอรมัน" ท้ายที่สุดเขาก็กางปีกโผบินไม่ได้แล้วก็ออกจากสโมสรไป(ขณะนี้อยู่กับสโมสร Hertha BSC)
นอกจากนั้นก็ยังมีอย่าง José Sosa, Jan Schlaudraff, Marcell Jansen, Alexander Baumjohann, Sebastian Rode, Nils Petersen, Breno และอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งนั่นก็ยังรวมไปถึงอุซามิ ทาคาชิที่เคยไปเล่นยืมตัวให้กับบาเยิร์นมาก่อนด้วย
นักเตะหลายคนเป็นนักเตะที่ราคาตอนขายนั้นต่ำกว่าราคาตอนซื้อตัวมาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า