หลังจากส่งซัมเปร์ลงสนาม เกมที่คมกริบของชิมิซุนับตั้งแต่แรกเริ่มนั้นดูแผ่วลงทันที มันคงไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้าอย่างเดียวแน่ ทุกอย่างเป็นไปตามที่กุนซือลิลโล่วางเอาไว้ การส่งซัมเปร์ลงแดนกลางนั้นทำให้เกมมีความเสถียรภาพขึ้น สไตล์การเล่น Possession Soccer ของโกเบสามารถคุมบอลที่แดนกลางได้ง่าย
 
  แต่การเล่นเพียงแค่ 15 นาทียังคงไม่มากพอที่จะทำให้ยืนยันได้ว่าซัมเปร์นั้นกำลังจะกลายเป็น "บุสเกตส์แห่งโกเบ" ได้อย่างไร
 
  จากนี้เขาจะสามารถยกระดับสภาพความฟิตของร่างกายได้เท่าไร จะสามารถรักษาความเฉียบคมในการแข่งขันของจริงระยะยาวหรือไม่ นอกจากนั้นเขายังจำเป็นต้องมีการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม ต้องมีการแบ่งปันทัศนวิสัยในการเล่น
 
  การถูกตีเสมอในนาที 88 นั้นนับว่าเป็นความผิดพลาดของฮัตสึเสะ เรียวที่เคลียร์ลูกพลาด แต่จุดเริ่มต้นนั้นมาจากการเสียบอลอย่างง่ายดายในบริเวณเส้นตรงกลางสนาม ในตอนนั้นข้างหน้าของซัมเปร์มีอย่างน้อยสองทางเลือกอย่างยามากุจิและมิตะ แต่กระนั้นเขากลับเลือกส่งให้อิเนียสต้าที่ถูกกองหลัง 3 คนตามประกบอยู่ ซึ่งอิเนียสต้าก็ครองบอลไม่ได้ เลยทำให้ทีมถูกเกมเคาท์เตอร์สั้นสวนกลับ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าตัวของซัมเปร์นั้นยังไม่มีความไว้วางใจในเพื่อนร่วมทีมแดนกลางของเขา

  ในส่วนของเกมรับนั้น ก็ยังมีหลายครั้งที่ซัมเปร์สลับตำแหน่งกับยามากุจิและมิตะ เมื่อแถวหน้าหายไปหนึ่งคน มิดฟิลด์ตัวรับอย่างซัมเปร์เลยต้องสลับตำแหน่ง เหมือนกับเป็นการสื่อข้อความว่า "ใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการเล่นเกมรับ" แต่กับซัมเปร์นั้นเขามองเป็น "คุมความได้เปรียบในแดนกลางเอาไว้ แล้วก็คอยทำการปิดเกมเมื่อไม่มีศัตรูเข้ามาไล่" นั่นจึงหมายความว่าทัศนวิสัยในการเล่นนั้นแตกต่างออกไป
 
  ถ้าวางเป้าหมายจะกลายร่างเป็นบาร์ซ่าให้ได้ล่ะก็ แนวคิดอย่างหลังนี้ไม่ใช่แน่ ๆ ปรัชญาของบาร์ซ่านั้นไม่ใช่ "การหนีเอาตัวรอด" ซึ่งซัมเปร์ที่รับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับนั้นโดยหลักแล้วก็ควรจะมีระดับสภาพจิตใจและระดับความมั่นคงในการควบคุมกลยุทธ์เทียบเท่ากับบุสเกตส์ ทว่าการจะคาดหวังให้ตัวของเขาที่เพิ่งเข้าสโมสรมาไม่นานให้ทำได้ถึงขนาดนั้นก็ออกจะโหดร้ายไปไม่น้อย
 
  แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรทั้งนั้น ค่อย ๆ เชื่อมสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใดก็ยังวาดรูปให้ได้ดังเดิม แค่แบ่งปันภาพในหัวกับเพื่อนให้ได้ก็พอ