สายสัมพันธ์ระหว่างแวดวงฟุตบอลบราซิลกับสโมสร Antlers นั้นมีมากอย่างมหาศาล หลังจากเลื่อนขั้นขึ้นมา J1 และมี Nippon Steel เข้ามาเป็นเจ้าของด้วยนั้นก็ทำให้สโมสรสามารถคว้านักเตะชาวญี่ปุ่นที่มีความแข็งแกร่งเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งไม่ว่าจะเรื่องไหนทุกสิ่งล้วนแต่มีต้นกำเนิดจากตัวของซิโก้ทั้งนั้น

  หลังจากนั้นสโมสร Antlers ก็ยังสร้างประวัติศาสตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้วาแชมป์ใน Santory Series (Stage 1) พร้อมกับคอยคว้าแชมป์อย่างต่อเนื่องจนทำให้เครื่องหมายการค้าของ Antlers นั้นมีความแข็งแกร่งบ่งบอกถึงความีระดับและเสถียรภาพในการคว้าแชมป์ที่สูงส่งนั่นเอง

  ตลอด 25 ปีที่ผ่านมีนักเตะเยาวชนน้อยใหญ่ที่ใฝ่ฝันถึงการมาค้าแข้งกับสโมสร Antlers มากยิ่งขึ้น จากนั้นสโมสรก็ทำการอบรมบ่มเพาะรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทำการปลูกฝังปรัชญาและสืบทอดจิตวิญญาณแห่งชัยชนะ จนทำให้เหล่านักเตะ Antlers สามารถเล่นได้อย่างมีเสถียรภาพท่ามกลางสนาม Azadi Stadium อย่างแข็งแกร่ง อดทน ไม่ปกปิดถึงศักยภาพในเกมรุกรับที่มีอย่างโดดเด่น หากจะพูดว่าสนามอาซาดีชุ่มโชกไปด้วยปรัชญาของสโมสร Antlers ก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยไปแต่อย่างไรเลย
  

 

  แน่นอนว่าคำชมนั้นไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวของซิโก้เพียงคนเดียว ก็ต้องชื่นชมทัศนวิสัยของผู้นำ Antlers ที่กว้างใหญ่ถึงขนาดนี้ด้วย แม้การเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัยจะมีไม่มากก็ตาม แต่ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การคว้าตัวนักเตะยิ่งใหญ่ในแต่ละยุคสมัยตั้งแต่ Leonardo Araújo และ Jorginho จนไปถึงในปี 2000 ก็คว้าตัว Bebeto เข้ามาเสริมทัพ พร้อมทั้งยังทำการคว้าตัวกุนซือชื่อดังชาวบราซิลให้เข้ามาคุมทีมโดยมองถึงการปรับปรุงทีมในระยะยาว จนสามารถเล่นเกมรุกได้อย่างดุดัน สามารถรับมือกับทีมต่างชาติ สามารถปลุกปั้นตัวนักเตะเยาวชน ความซื่อตรงและความเชื่อมั่นคือต้นกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

  มีการบริหารจัดการสโมสรอย่างชาญฉลาด มีการลงทุนสร้างคลับเฮาส์และอคาเดมีขึ้นมาพร้อมกับคอยรักษาสภาพแวดล้อมเอาไว้ให้เป็นไปอย่างดีเยี่ยม ทัศนวิสัยในการบริหารที่มองการณ์ไกลเสมอ การทำให้สโมสรไม่ได้เป็นแค่ของทีมหรือของผู้เกี่ยวข้อง แต่ทำให้แฟนและกองเชียร์มีความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน จนทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีนักเตะไม่กี่คนเท่านั้นที่ย้ายออกจากสโมสรไป นักเตะหลายคนที่ออกไปค้าแข้งต่างแดนก็กลับมาที่บ้านหลังเก่าเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นยานากิซาวะ อัตสึชิ, โอกาซาวาระ มิตสึโอะ, นากาตะ โคจิ หรือในช่วงหลังมานี้อย่างอุจิดะ อัตสึโตะก็เช่นกัน พวกเขารักครอบครัวจากก้นบึ้งหัวใจ