ถ้าพูดแบบไม่เกรงใจกันล่ะก็ ผู้ที่สามารถเอาชนะช่องว่างในช่วงที่หยุดไปได้นั้นจะกลายเป็นทีมที่คว้าเกียรติยศของปีนี้มาครองได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายของลีคที่มีความละเอียดอ่อนสูงแบบนี้นั้น กำลังใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
 
  อย่าตกอยู่ในความตึงเครียด ตั้งสติและสมาธิกับเกมการแข่งขันให้ได้มากที่สุด ซึ่งนั่นคือปัจจัยที่แสนสำคัญในช่วงก่อนจะจบฤดูกาลเช่นนี้ กล่าวได้ว่าฟุตบอลนั้นก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่จิตใจมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง บางทีผลแพ้ชนะอาจจะมาจากปัจจัยอื่นนอกเหนือจากทักษะและการบริหารตัวนักเตะ
  
  และนอกเหนือจากสภาวะจิตใจนั้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือ "โชคชะตา"
 

  ตัวอย่างเช่นการแข่งขันวันที่ 7 ตุลาคม โคบายาชิ ยูได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าข้างซ้ายในเกมที่คาวาซากิเจอกับคาชิมะ แต่นั่นก็ทำให้เขามีเวลาหยุดพักยาวในช่วงที่ทีมชาติมีเกมกระชับมิตร เวลาพักยาว 14 วันนั้นทำให้โคบายาชิ ยู กลับมาลงเล่นในเกมที่เจอกับโกเบในนัดที่ 30 ได้อีกด้วย
  หากไม่มีการหยุดพักช่วงนั้นล่ะก็ มีความเป็นไปได้ว่าในนัดนี้โคบายาชิจะไม่ได้ลงเล่นจนเป็นผลให้ทีมไม่อาจคว้าชัยชนะได้ เพราะฉะนั้นจึงเรียกได้ว่าคาวาซากิ "โชคดี" นั่นเอง จึงพูดได้อีกนัยหนึ่งว่าการพักเบรคนี้ก็อาจจะเป็นผลดีในอีกความหมายหนึ่งก็เป็นได้
 
  ท้ายที่สุดแล้วช่วงพักเบรคนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญในการคว้าเกียรติยศจ้าวแห่ง J1 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าช่วงพักเบรคของแต่ละสโมสรนั้น มันจะกลายเป็นหลุมพรางหรือโอเอซิสกันแน่

ข่าวโดย: ชิราโทริ คาซึฮิโระ (Soccer Digest Editorial Desk)