Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • ความล้มเหลวในรัสเซียคือฝันร้ายที่ต้องผ่านไปให้ได้! ทีมชาติเยอรมันจะกลับมาทวงบัลลังก์ใหม่อีกครั้ง【สดจากสนาม】

ความล้มเหลวในรัสเซียคือฝันร้ายที่ต้องผ่านไปให้ได้! ทีมชาติเยอรมันจะกลับมาทวงบัลลังก์ใหม่อีกครั้ง【สดจากสนาม】

カテゴリ:連載・コラム

中野吉之伴

2018/10/13

การบำบัดฝันร้ายที่รัสเซียคือ EURO2020

ผลงานของทีมชาติเยอรมันยังเป็นไปได้อย่างงดงามจนกระทั่งถึงปีก่อน... แม้จะตกรอบอย่างน่าผิดหวังในฟุตบอลโลกที่รัสเซียก็ตาม แต่จากนี้ต่อไปก็ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่จากหนึ่ง จำเป็นต้องเอาความผิดพลาดมาปรับปรุงเพื่อพัฒนาไปให้ได้อย่างมากยิ่งขึ้น ทีมชาติเยอรมันจะสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้อีกหรือไม่!?

(C) Getty Images

画像を見る

  ทีมชาติเยอรมันภายใต้กุนซือเลิฟที่ให้สัมภาษณ์ไปเช่นนั้นได้แสดงฟอร์มการเล่นในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างออกไปจากเดิมในการแข่งขันกับทีมชาติฝรั่งเศส โดยการจัดแผงหลังทั้งหมด 4 คน ซึ่งใช้Matthias Ginter, Jérôme Boateng, Mats Hummels และ Antonio Rüdiger เรียกได้ว่าเป็นการจัดแผงหลัง 4 คนด้วยตัวผู้เล่นสไตล์ Center Back ในการรับมือกับเกมรุกของทีมชาติฝรั่งเศส
 
  "ความยืดหยุ่นในแต่ละการแข่งขันนั้นคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เกมนี้เอ็มบาปเป้จะต้องรุกมาจากทางขวา ต้องคิดถึงการบุกโดยเดมเบเล่เอาไว้ด้วย การบุกจากทั้งสองฝั่งของทีมชาติฝรั่งเศสนั้นน่ากลัวเหลือเกิน จึงทำให้ผมเลือกจะจัดเป็นแผงรับ 4Back เอาไว้เพื่อเสถียรภาพในการรับมือกับเกมบุก วันนี้จะแสดงสไตล์การเล่นฟุตบอลของพวกเราโดยการรักษาสมดุลของการป้องกันเอาไว้

  ตั้งใจจะทำเกมรับที่แข็งแกร่งต่อการรุกของทั่งชิรูด์และกรีซมันน์แล้วก็สวนกลับอย่างเฉียบคม เติมเกมรับให้แข็ง มีการวิ่งแข่งวิ่งดวลและรักษาคอมแพ็คเอาไว้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ให้ความสำคัญกับลูกบอลแล้วก็ฉวยโอกาสเข้าไปในเขตแดนของศัตรู ซึ่งนั่นคือจุดสำคัญของพวกเรานับจากนี้ไป"
 
 
  พอลองนึกย้อนดูแล้วก็พบว่า การวิเคราะห์ทีมฝั่งตรงข้ามโดยละเอียดนั้นเป็นเหมือนกันกับ EURO2016 เลยก็ว่าได้ กลยุทธ์ที่เกิดจากการกดจุดแข็งของศัตรูแล้วสร้างสถานการณ์ที่ได้เปรียบของตนเองขึ้นมา... หากผ่านรอบกรุ๊ปลีคในฟุตบอลโลกที่รัสเซ๊ยไปได้ล่ะก็คงตั้งใจจะเล่นแบบนั้นเหมือนเดิมอย่างไม่ผิดแน่
 
  หนึ่งในสิ่งที่น่าแปลกใจกับเกมของฝรั่งเศสนั้น คือการจัด Tony Kroos และ Joshua Kimmich เล่นกลางสองคน จริงอยู่ที่โดยธรรมชาติของคิมมิชจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับก็ตาม แต่สไตล์ฟุตบอลของเขาที่เล่นให้กับบาเยิร์นมิวนิคนั้นถูกจัดให้เล่นตำแหน่งแบ็คขวาเพียงอย่างเดียว

  สำหรับเรื่องนี้กุนซือเลิฟก็ให้สัมภาษณ์ว่า "นี่เป็นไอเดียที่ไม่เคยมีมาก่อนในฟุตบอลโลก มันเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาได้ใหม่หลังจบทัวร์นาเมนต์ มีแทคติคไหนที่จำเป็นต้องปรับปรุงหรือนำมาใช้งานบ้าง ซึ่งสำหรับกิมมิชแล้วนั่นคือตำแหน่งที่เขาควรจะอยู่ ตอนฝึกซ้อมนั้นเขาก็แสดงผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี เขามีความสามารถในการครองบอลสูง เล่นได้อย่างเฉลียวฉลาด เขาต้องโชว์ผลงานที่ดีออกมาแน่นอน"
 
  การแข่งขันระหว่างสองแชมป์โลกจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แน่นอนว่าทุกอย่างยังเป็นไปได้ไม่ดีเท่าไรนัก แม้ภายหลังจากนั้นจะมีการแข่งขันนับกระชับมิตรกับทีมชาติเปรูก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าเกมรับยังขาด ๆ เกิน ๆ ส่วนเกมรุกก็ไม่อาจสามารถหาความคมได้เท่าไรนัก
 
  เลิฟออกมาพูดว่า
 
  "การลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกที่รัสเซียไปนั้นเป็นอะไรที่แสนไร้เดียงสา การจะ "พักฟื้น" ที่แท้จริงนั้นคือทัวร์นาเมนต์รอบหน้าหรือ EURO2020 นั่นเอง"
 
  เพราะฉะนั้นเยอรมันจึงต้องสู้ต่อไป การแข่งขันในวันที่ 13 กับทีมชาติฮอลแลนด์และวันที่ 16 กับฝรั่งเศสนั้นจะเป็นการท้าทายที่แสนจริงจัง แต่ถึงกระนั้นการพ่ายแพ้ใน Nations League มันก็ไม่ได้เป็นผลกระทบอะไรที่หนักหนาขนาดนั้นเพราะยังมีการแข่งขันรอบคัดเลือกของ EURO รออยู่ เพียงแต่การจะทวงคืนสิ่งที่สูญเสียไปให้ได้นั้น การเตรียมใจและเตรียมตัวเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ห้ามงอแง ต้องลุกขึ้นสู้และยืนหยัดต่อไป
 
  ความรุ่งโรจน์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องเอื้อมมือไปคว้าแต่มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ใจตั้งมั่นพร้อมที่จะคว้ามาให้ได้เสมอ ศักดิ์ศรีของ "แชมป์" นั้นไม่จำเป็นทั้งสิ้น
 
ข่าวโดย: นากาโนะ คิจิโนะสุเกะ
 
【ประวัติผู้เขียน】
นากาโนะ คิจิโนะสุเกะ
เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม 1977 จังหวัดอากิตะ หลังจบการศึกษาสาขามนุษยศาสตร์ภาควัฒนธรรมตะวันตกที่มหาวิทยาลัยมุซาชิก็ตั้งใจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจึงย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน ในเดือนกรกฎาคมปี 2009 ได้ไลเซนส์ระดับ UEFA-A ของสมาคมฟุตบอลเยอรมันมาครอบครอง เริ่มสั่งสมประสบการณ์จาก SC Freiburg ชุด U-15 แล้วก็เริ่มทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการทีมชุด U-16 ของ FC Freiburg ที่เคยเล่นในบุนเดสลีกามาก่อน เขียนหนังสือ "ตำราฝึกฝนแชมป์โลกในแต่ละยุค" (KANZEN) และ "เด็กเยอรมันเล่นฟุตบอลโดยไม่มีกรรมการ" (Natsume-sha) ในช่วง Off-season กลับมาที่ญี่ปุ่นพร้อมกับเปิดค่ายอบรมในธีม "ค่ายฝึกฝน Grass root Leadership" "วิธีที่เข้าหากันด้วยฟุตบอลที่เหมาะสมของผู้ปกครองและลูก" และ "การสร้างเน็ตเวิร์คแห่งความร่วมมือในท้องถิ่น" 
【関連記事】

Facebookでコメント