การตกรอบอย่างรวดเร็วในฟุตบอลโลกที่รัสเซียนั้น แน่นอนว่านั่นต้องกลายเป็นเรื่องสุดช็อคสำหรับทีมชาติเยอรมันอย่างไม่ผิดแน่ แต่ว่านั่นก็ไม่ได้มีความหมายถึงอนาคตแวดวงฟุตบอลของเยอรมันจะดับสิ้นแต่อย่างใด มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย
เมื่อทำการสอบถาม Youth Director ของ SC Freiburg ที่มีชื่อว่าคุณ Andreas Steinfeld ไปว่า "ความพ่ายแพ้ในฟุตบอลโลกของเยอรมันนั้นเกิดเป็นผลกระทบอะไรขึ้นมาหรือไม่?" คำตอบที่ได้รับกลับมานั้นก็แสนเรียบง่ายเหลือเกิน
ความล้มเหลวในรัสเซียคือฝันร้ายที่ต้องผ่านไปให้ได้! ทีมชาติเยอรมันจะกลับมาทวงบัลลังก์ใหม่อีกครั้ง【สดจากสนาม】
カテゴリ:連載・コラム
2018/10/13
รากฐานของเยอรมันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น!

การแข่งขันในวันที่ 14 ตุลาคมตอน 03.45 ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น ทีมชาติเยอรมันบุกไปเยือนฮอลแลนด์ในศึก Nations League เป็นอีกหนึ่งเกมที่เยอรมันต้องคว้าชัยชนะให้ได้ในหลาย ๆ ความหมาย ภาพถ่ายนี้มาจากนัดที่แข่งกับฝรั่งเศส
(C) Getty Images
"ไม่มีนะ ไม่มีอะไรจริง ๆ โดยส่วนตัวของผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทีมโดยตรงด้วยจึงไม่ทราบเรื่องของภายใน แต่ถ้าลองดูศักยภาพของนักเตะแต่ละคนก็รู้ได้ดีเลยว่าพวกเขามีระดับสูงถึงขนาดไหน จริงอยู่ที่ในฟุตบอลโลกนั้นไปไม่สวยเท่าไรนัก แต่สิ่งนั้นก็เป็นแค่การแข่งขันหนึ่งรายการของทีม ๆ หนึ่งเอง"
การตกรอบกรุ๊ปลีคใน EURO2000 นั้นสถานการณ์แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
สภาพของทีมและนักเตะในตอนนั้นเรียกได้ว่าไม่สามารถหาความหวังได้เลย แม้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผลัดวัยแต่ก็ไม่อาจหานักเตะตัวตายตัวแทนมาใหม่ได้ ซึ่งนั่นคือสภาพความยุ่งเหยิงในตอนนั้น มันเลยเหมือนกับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องทำการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง จึงมีการตัดสินเป็นการเร่งด่วนจนทำการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและปรับระบบการอบรมนักเตะใหม่
ในทางตรงกันข้าม รากฐานของเยอรมันในตอนนี้มันไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้นเลย
แต่แน่นอนว่าไม่มีชาวเยอรมันคนไหนที่ยอมรับ "โศกนาฎกรรม" ที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกที่รัสเซียได้ ถ้ามีโอกาสแก้ตัวล่ะก็อยากจะขอแก้ตัววินาทีนี้เดี๋ยวนี้เลย
ในช่วงเวลานั้น สื่อต่าง ๆ ในเยอรมันต่างก็ตีข่าวสารพัดสารเพ แต่ไม่ว่าจะเป็นสื่อเจ้าไหนก็ตาม สิ่งที่เห็นตรงกันหมดก็คือสภาพของทีมชาติเยอรมันนั้น "เละป่นปี้" ก็ว่าได้
การประกาศถอนตัวของทีมชาติจากเมซุท โอซิล เจ้าของตำแหน่งมิดฟิลด์นั้นก็สร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้าง กล่าวได้ว่านั่นยิ่งเป็นชนวนให้การพูดจาเสีย ๆ หาย ๆ และด่าทอวงการฟุตบอลเยอรมันเป็นเรื่องที่แพร่หลายไปเป็นวงกว้างไม่มีใครที่อาจหยุดได้เลย
แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก เพราะผู้นำในแวดวงฟุตบอลเยอรมันตอนนี้สายตาต่างก็มองถึงอนาคตกันหมดแล้ว
ตัวอย่างเช่นอดีตกัปตันทีมชาติเยอรมัน Matthias Sammer นั้น "พวกเราจำเป็นต้องพูดถึงเรื่องของฟุตบอลต่อไป" เขาไม่ได้มีความคิดจะตำหนิสื่อแต่อย่างใด เขากลับเห็นควรว่าตอนนี้ยิ่งต้องพูดกันว่าข้อดีข้อเสียในทีมมีอะไร มีอะไรที่ขาดแคลนและต้องได้รับการแก้ไข
ผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน โยอาคิม เลิฟ ได้พูดในงานแถลงข่าวของศึก Nations League ในเกมก่อนเตะกับฝรั่งเศสถึงความพ่ายแพ้ของทีมชาติเยอรมันในฟุตบอลโลกที่รัสเซียว่า
"ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของผมนั้น คือการที่เชื่อมั่นว่าสไตล์การเล่นที่พวกเราถนัดจะสามารถทะลวงรอบกรุ๊ปลีคไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเพื่อการนั้นเงื่อนไขทุกอย่างจำเป็นต้องครบถ้วน หากทำแบบนั้นสำเร็จจะทำให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าเงื่อนไขเหล่านั้นไม่ได้ตรงกับพวกเราในช่วงเวลานั้นเลย
ในตอนนี้พอลองนึกย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานั้น หากจะบอกว่าพวกเราเหลิงเกินไปก็ว่าได้ ตั้งใจจะไปจนถึงสูงสุดด้วยฟุตบอลแบบนั้นให้ได้ และเพื่อการนั้นจึงต้องทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างเพอร์เฟ็ค เพียงแต่ว่าผมต้องทำการปรับสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับให้ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเช่นในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล"
จำเป็นต้องเรียกไฟแห่งการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ ทบทวนปรับปรุงแก้ไขและใช้เวลากับสิ่งเหล่านั้นโดยละเอียดอ่อน "หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลกไปหลายวัน ผมก็สัมผัสได้ถึงพลังและแรงจูงใจที่จะลองท้าทายอะไรใหม่ ๆ ผมตั้งหน้าตั้งตารอถึงการเริ่มต้นใหม่เหลือเกิน" โยอาคิม เลิฟกล่าวไว้เช่นนั้น