――ทราบมาว่าเมื่อปีก่อนมีนักเตะไทยในทัวร์นาเมนต์ที่ได้ไปศึกษาระยะสั้นกับสโมสรในเจลีคมา ไม่ทราบว่าโค้ชสโมสรเจลีคนั้นแสดงความคิดเห็นกับนักเตะเยาวชนไทยอย่างไรบ้างหรือครับ?
 
"ได้รับคำชมว่า "นักเตะใช้ได้เลยครับ" ซึ่งทำให้ผมเองรู้สึกพึงพอใจมากเลยครับ โค้ชบอกว่านักเตะแต่ละคนมีศักยภาพของตนเอง แต่ถึงกระนั้นการจะมาค้าแข่งกับต่างชาตินั้นยังจำเป็นต้องเข้าใจในความหมายนั้นให้ลึกซึ้ง ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องศึกษาและบ่มเพาะกันไปครับ"
 
――อะไรคือสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อมีการค้าแข้งกับต่างชาติสืบต่อไปงั้นหรือครับ?

"สิ่งสำคัญคือ "การเปลี่ยน Mind set" ครับ ถ้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ล่ะก็มั่นใจได้เลยว่าระดับของนักเตะไทยนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นแน่ ซึ่งนั่นจะเป็นผลให้นักเตะไทยสามารถจับต้องได้กับตลาดการค้าแข้งในลีคต่างชาติในภายภาคหน้าครับ แต่ถึงตอนนี้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมก็ตาม คงต้องทำกิจกรรมด้วยความสม่ำเสมอโดยตลอด ก็ต้องพยายามกันไปครับ" 
 

  นักเตะเยาวชนไทยในทัวร์นาเมนต์ที่ได้รับการรับเลือก 2 คนนั้นจะได้รับการส่งไปศึกษาต่อระยะสั้นกับทีมซานเฟรสฮิโรชิมะ ซึ่งนั่นคือสโมสรที่ซุปเปอร์สตาร์ชาวไทยเจ้าของเสื้อทีมชาติหมายเลข 10 ธีรศิลป์ แดงดา สังกัดอยู่ด้วย หากเป็นแฟนนักเตะไทยล่ะก็ไม่มีคนไหนที่จะไม่รู้จักสโมสรนี้ทั้งสิ้น ก็ไม่ทราบได้เหมือนกันว่าน้อง ๆ นักเตะเยาวชนจะอดกลั้นความตื่นเต้นได้แค่ไหนกัน
 
  หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ทางคุณคิบะก็บอกว่า "ตอนนี้นักเตะเยาวชนที่ได้รับเลือกรุ่นที่ 1 ที่เคยพาไปศึกษากับทีมกัมบะโอซาก้านั้นตอนนี้ก็มีอายุ 18 ปีซึ่งถึงวัยค้าแข้งมืออาชีพแล้ว ผมรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอมากเลยครับ" ด้วยความยิ้มแย้มอย่างภาคภูมิใจราวกับกำลังพูดถึงลูกของตัวเองเลย ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจมากครับ


  การเชื่อมโยงของเหล่าตำนานทีมชาติไทยในชุดช้างศึกที่โลดแล่นข้ามน้ำข้ามทะเลนั้นจะให้กำเนิด "ชนาธิปหมายเลข 2" ได้หรือไม่... บางทีอนาคตยุคใหม่นั้นอาจจะมาเยือนดินแดนสยามเมืองยิ้มในไม่ช้านี้เลย
 
ข่าวโดย ซาซากิ ยูสุเกะ