การแข่งขันศึก UEFA Champions League รอบแบ่งกลุ่มประจำวันที่ 2 ตุลาคม การแข่งขันนัดที่ 2 สโมสร Red Bull Salzburg ต้องบุกไปเยือน Liverpool ที่สนามแอนฟิลด์ ทีมสามารถไล่ต้อนลิเวอร์พูลได้อย่างสุดสนุกแต่ท้ายที่สุดก็พ่ายไป 3-4
สโมสรซัลซ์บวร์กที่ตามหลังถึง 3 ลูกจนนาที 36 นั้น ในช่วงท้ายครึ่งแรกก็ได้ประตูตีไข่แตกจาก Hwang Hee-chan จำนวนหนึ่งลูก แต่บรรยากาศในเกมก็ยังตกเป็นของลิเวอร์พูลจนทำให้คิดว่ารู้ผลแพ้ชนะกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วด้วยซ้ำ
ทว่าเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังบรรยากาศก็เปลี่ยนไป มินามิโนะ ทาคุมิยิงลูกวอลเลย์ทำประตูเพิ่มให้ทีมได้ในนาที 56 จากนั้นใน 4 นาทีให้หลังมินามิโนะก็จ่ายลูกเลียดพื้นให้กับ Erling Håland ตีเสมอได้ 3-3
แม้หลังจากนั้นโมฮาเหม็ด ซาล่าห์จะทำประตูชัยให้กับลิเวอร์พูลได้ก็ตาม แต่การที่สามารถไล่ต้อนแชมป์เก่าทั้งที่ถูกนำอยู่ 3-0 จนขึ้นมาตีเสมอได้นั้นจึงทำให้กุนซืออย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ยังเอ่ยปากว่า "ซัลซ์บวร์กในครึ่งหลังมีพลังมาก พวกเขาสามารถทำ 2 ประตูที่แสนวิเศษได้ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป" ซึ่งนั่นบ่งบอกถึงพลังที่ซัลซ์บวร์กแสดงออกมาได้เป็นอย่างดีจนต้องหยิบยกมาพูดถึง
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของซัลซ์บวร์กนั้นคือการพลิกกลับมาลุกขึ้นยืนอีกครั้งในช่วงครึ่งหลัง บางทีจุดตั้งต้นที่ทำให้พวกเขาสามารถแสดงฟอร์มที่แสนยอดเยี่ยมออกมาได้นั้นอาจจะเป็นถ้อยคำของกุนซือก็เป็นไปได้
ช่อง YouTube ทางการของสโมสรซัลซ์บวร์กได้อัพคลิบเผยแพร่ถ้อยคำของกุนซือ Jesse Marsch ที่พูดกับเหล่านักเตะในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อช่วงพักครึ่งออกมาให้ได้รับชมกัน
「พวกนายกลัวลิเวอร์พูลเกินไปแล้ว!」「เอาคืนเลย」สิ่งที่ปลุกไฟกลุ่มมินามิโนะ ทาคุมิแห่งซัลซ์บวร์กนั้นคือเสียงตะโกนสุดเดือดของกุนซือ!?
カテゴリ:メガクラブ
2019/10/05
ในช่วงพักครึ่งที่ลิเวอร์พูลนำอยู่หลายช่วงตัว

ซัลซ์บวร์กโดนเกมรุกระดับแชมป์เปี้ยนของลิเวอร์พูลเล่นงานจนปั่นป่วน ทว่าเสียงตะคอกของกุนซือมาร์ชนั้นก็ทำให้แววตาของนักเตะพลันเปลี่ยนไป
(C) Getty Images
กุนซือเลือดร้อนวัย 45 ปีที่เคยเป็นนักเตะทีมชาตอเมริกามาก่อนนั้น ได้ทำการกระตุ้นนักเตะที่ห่อเหี่ยวให้ไม่ต้องยำเกรงแม้จะเผชิญหน้ากับแชมป์เก่าด้วยถ้อยคำที่แสนดุดันร้อนแรงดังนี้
"พวกนายรู้ตัวรึเปล่าน่ะว่าทำฟาวล์ไปกี่ครั้งแล้ว? มันแค่สองครั้งเองนะ!? นี่มันไม่ใช่การแข่งขันกระชับมิตร! มันคือเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีก! ไอ้พวกห่วยนี่! ตั้งใจหน่อยสิ ทุ่มให้มันสุดตัวกว่านี้หน่อย! เอาให้ฟานไดค์หงายหลังไปเลย! ทำให้มันได้หน่อยซี่!
พวกนายน่ะแหยงเกินไปแล้ว ยำเกรงฝั่งตรงข้ามมากเกินไป พวกนายน่ะแสดงอาการหวาดกลัวออกมาหมดเลย ไม่ต้องมาติดพันอะไรขนาดนั้น ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าฝั่งตรงข้ามน่ะเป็นทีมที่เจ๋งขนาดไหน! เพราะงั้นเลยกลัวที่จะทำให้พวกเขาบาดเจ็บงั้นเหรอ? ไม่ต้องเลย! สู้ไปซะ!"
แล้วก็ยังพูดว่า "จงสั่งสอนให้ลิเวอร์พูลรู้ไว้ซะว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อสู้" เขาตะโกนขึ้นมาแล้วก็อธิบายเพิ่มว่า
"ต้องเอาคืนให้ได้ แสดงกึ๋นกับความตั้งใจของพวกเราออกมา! รู้อยู่แล้วว่าฝั่งโน้นน่ะมันเก่ง แต่เราก็ต้องสู้ ทุ่มเทชีวิตให้กับการแข่งขันนี้ มั่นใจให้มากกว่านี้หน่อย ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้น แค่นี้มันก็พอแล้ว ปล่อยตัวเองออกมาในครึ่งหลังซะ! แสดงฟอร์มการเล่นที่วิเศษออกมา ถ้าทำได้แล้วพวกเราจะต้องยืดอกอย่างภาคภูมิใจได้ เอ้า ไปกันเหอะ!"
หากสังเกตฟอร์มการเล่นและแววตาของนักเตะซัลซ์บวร์กที่เปลี่ยนไปในครึ่งหลังนั้น บางทีการ "แจกน้ำลาย" ของกุนซือได้ผลกับพวกเขามากจริง ๆ
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest