อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น โอโนะ ชินจิ วัย 39 ปีตัดสินใจย้ายไป FC Ryugyu แห่ง J2 โดยในวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการที่เมืองนาฮาจังหวัดโอกินาว่า
โอโนะที่ย้ายจาก Hokkaido Consadole Sapporo ระบุว่า "ผมดีใจมากเลยครับที่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ FC ริวกิว เป้าหมายของฤดูกาลนี้ไม่ใช่การอยู่รอดใน J2 แต่จะเป็นการร่วมกับทุกคนเพื่อเลื่อนชั้นไปเล่น J1 ให้ได้ เอาเป็นว่าภายในตลอดการแข่งขันที่เหลืออยู่ 15 นัดนี้ ผมต้องทำให้ทุกคนมีสติพึงระลึกเอาไว้ให้ได้ตั้งแต่การร่วมฝึกซ้อมครั้งแรก ส่วนตัวผมเองก็ต้องดูแลรักษาสภาพร่างกายให้ดีเพื่อที่ตัวเองจะได้ลงสนามมากขึ้นอย่างน้อยแม้เพียง 1 นัดหรือ 1 นาที ผมจะพยายามทำให้ได้ครับ" เป็นการประกาศความตั้งใจกับการค้าแข้งที่โอกินาว่า
เจ้าตัวของโอโนะ ชินจิ ที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดชิซึโอกะนั้น เขาย้ายจากทีมโรงเรียนชิมิซึมาอยู่กับอุราวะเมื่อปี 1998 จากนั้นในปี 2001 ก็ย้ายไปอยู่กับ Feyenoord สโมสรในฮอลแลนด์ มีส่วนร่วมในการลงแข่งศึก UEFA Cup(ชื่อปัจจุบันคือยูโรป้า)จนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ จากนั้นในปี 2006 ก็กลับมาเล่นที่อุราวะอีกครั้ง พอปี 2008 ก็ย้ายไปค้าแข้งอีกรอบกับ VfL BOchum ที่เยอรมัน หลังจากนั้นก็ไปชิมิซึ เวสเทิร์นซิดนีย์จนล่าสุดในปี 2014 ก็ย้ายมาอยู่กับซัปโปโรเป็นเวลา 6 ฤดูกาล
ข้อความของประธาน FC ริวกิว ที่พุ่งเสียบหัวใจของโอโนะ ชินจิ... ความทะเยอทะยานและการตัดสินใจของยอดนักเตะที่ย้ายไปโอกินาว่าคือ?
カテゴリ:Jリーグ
2019/08/12
"หากผมเอาประสบการณ์ตลอดเวลาที่สั่งสมมาส่งต่อให้กับนักเตะทั้งในสนามและในการฝึกซ้อมได้ล่ะก็"

โอโนะที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวที่โอกินาว่าในวันที่ 11 เจ้าตัวเตรียมตัวเริ่มต้ม ณ ดินแดนใหม่
ภาพโดย: นากาโมโตะ คาเนะโนบุ
เขามีโอกาสติดทีมชาติญี่ปุ่นตั้งแต่รุ่นอายุน้อย ในปี 1999 ช่วยให้ทีมชาติญี่ปุ่นในศึก World Youth ได้รองแชมป์ ได้ลงเล่นในฐานะทีมชาติญี่ปุ่นที่ศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 3 ทัวร์นาเมนต์ต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998
กุนซือฮิกุจิ ยาสึฮิโระของทีมริวกิวพูดถึงโอโนะว่า "หากพูดในเรื่องคุณภาพของเขานั้น ไม่มีอะไรให้ครหาเลยล่ะครับ" เป็นการแสดงความคาดหวังที่สูงส่ง ซึ่งในฤดูกาลนี้ทีมริวกิวทำทีมเน้นต่อบอล เน้นการครองบอลเพื่อทำเกมรุกเป็นหลัก ทว่า 4 นัดก่อนนัดล่าสุดนั้นทีมเจอกับคลื่นแห่งความพ่ายแพ้ถล่มต่อเนื่อง เมื่อเจอเกมรับของฝั่งตรงข้ามที่เข้าไปขวางการต่อบอลนั้น พอโดนสวนกลับทันทีทีมก็จะเสียประตูจนเป็นผลให้ทีมปราชัย เพราะฉะนั้นเพื่อการคว้าชัยชนะให้ได้ทีมจึงต้องการทักษะการต่อบอลที่จบสกอร์เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไหลลื่น จึงทำให้ตัวของโอโนะถูกคาดหวังมากจากทักษะที่มีอย่างมากมาย
นอกจากนั้นแค่การมาของโอโนะเพียงอย่างเดียวนั้นก็สามารถสร้างอิทธิพลอย่างมหาศาลให้กับริวกิวได้แล้ว เจ้าตัวโอโนะก็ระบุว่า "ถึงผมจะไม่ทราบว่าการมาเยือนของตัวเองนั้นจะทำให้ทีมเปลี่ยนไปได้อย่างไรบ้าง แต่ถ้าหากผมเอาประสบการณ์ตลอดเวลาที่สั่งสมมาส่งต่อให้กับนักเตะทั้งในสนามและในการฝึกซ้อมได้ล่ะก็ ทุกคนก็จะมีสติในความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น มีความกระหายที่จะไปให้สูงกว่านี้ ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเราเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ดี ๆ ใน J2 ได้ครับ" นั่นคือหัวใจอันหนักแน่นที่ต้องการตอบรับความคาดหวังของสโมสรด้วยการยกระดับเซนส์ในการรับรู้โดยทั่วทั้งทีม