ตัวเก็งแชมป์ J1 ในฤดูกาลนี้ก็น่าจะเป็นคาวาซากิผู้ที่อาจจะครองบัลลังก์คว้าแชมป์สมัยที่ 3 ต่อเนื่องได้จากการเสริมทัพนักเตะใหม่และความทะเยอทะยานของทีม
 
  ศูนย์หน้าสัญชาติบราซิลที่คว้าตัวมาจากสโมสร Internacional อย่างลีอันโดร ดาเมียนนั้น เขาคือกองหน้าผู้มากความสามารถ เป็นนักเตะที่มีความสามารถในการจบสกอร์จากลูกกลางอากาศซึ่งเป็นสิ่งที่คาวาซากิขาดตกไป ทำให้รูปแบบในการทำประตูนั้นเปี่ยมไปด้วยความหลากหลาย ส่วนยามามุระ คัตสึยะ มิดฟิลด์ที่คว้าตัวมาจากเซเรโซโอซาก้านั้น เขาก็เป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่มีรูปร่างสูงยาว เขาน่าจะมีส่วนสำคัญในเกมรุกรูปแบบใหม่ของทีมด้วย
  หากให้จำกัดความง่าย ๆ ในแผนการเสริมทัพของคาวาซากิในฤดูกาลนี้ก็คือ "ยกระดับแผน B ให้สูงขึ้น" ซึ่งนั่นก็คือการเปิดม่านไปสู้เส้นทางของการคว้าแชมป์อีกครั้ง
 
  นอกจากนั้นการปรับโครงสร้างนักเตะเพื่อให้มีความหลากหลายและความยืดหยุ่นสูงแบบนี้นั้นก็เป็นการทำเพื่อ ACL อีกด้วย ในฤดูกาลก่อนนั้นคาวาซากิเป็นทีมที่เครื่องติดช้า แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งเครื่องร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น ทว่านัดเปิดสนามซึ่งเป็นศึก XEROS SUPER CUP คาวาซากิก็โชว์ฟอร์มดีออกมา จนคว้าชัยชนะในนัดแรกซึ่งเป็นแชมป์แรกได้ในฤดูกาล บรรยากาศของทีมแตกต่างไปจากฤดูกาลก่อนโดยสิ้นเชิง แม้จะหลุดเข้าไปอยู่ในรอบกรุ๊ปสเตจของ ACL ที่มีแต่ทีมโหด ๆ ก็ตาม แต่กระนั้นด้วยระัดบของคาวาซากิก็น่าจะฝ่าฟันได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรนัก

  แต่ถ้าเข้าไปในรอบลึก ๆ ของ ACL มากยิ่งขึ้น ผลพวงที่จะตามมาก็คือเรื่องอาการเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บของนักเตะที่อาจจะส่งผลให้ผลงานในลีกตกต่ำลง โดยเฉพาะหากขุมกำลังชุดหลักขาดแหว่งไปล่ะก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ ซึ่งในฤดูกาลนี้นักเตะคนสำคัญของทีมหลายคนอย่างเอลซินโญ่, โมริยะ เคนทาโร่, ทาซากะ ยูสุเกะและอื่น ๆ นั้นต่างก็ย้ายออกทีมไปแล้ว นักเตะสำรองมีแต่นักเตะอายุน้อยและนักเตะหน้าใหม่ การหมุนเวียนนักเตะเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับทีมชุดหลักนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากขึ้น ซึ่งผลงานของโมริตะ ฮิเดมาสะในฤดูกาลก่อนนั้นก็เล่นได้ดีจนเรียกได้ว่าอยู่ในภาวะอุดมคติ แต่กระนั้นก็ไม่ไปถึงฝั่งฝัน ถ้ายังต้องจัดทีมเพื่อลุย ACL ล่ะก็โอกาสที่จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงในลีกก็ยากยิ่งขึ้น แต่แน่ล่ะว่าทีมนักเตะชุดตัวจริงของคาวาซากินั้นไร้เทียมทานกันอยู่แล้ว
 
  ส่วนคู่ปรับตลอดกาลของคาวาซากิอย่างสโมสรอุราวะและคาชิมะนั้น ดู ๆ แล้วโอกาสจะแย่งตำแหน่งแชมป์ไม่ได้มีสูงนักเท่าไร
 
  อุราวะมีกองหลังอย่างสุซุกิ ไดสุเกะและยามานากะ เรียวสุเกะทั้งยังมีกองหน้าอย่างสุกิโมโตะ เคนยูอยู่ด้วย พวกเขาคือขุมกำลังระดับทีมชาติญี่ปุ่น แต่จากที่เห็นในเกม SUPER CUP กว่าการผสมผสานจะลงตัวต้องกินเวลาอีกสักพักหนึ่ง หากพูดถึงกุนซือโดยทั่ว ๆ ไปนั้นจะเป็นการปั้นทีมแล้วก็ค่อยวางแผนรับมือเป็นนัดต่อนัดไป กระนั้นกุนซือผู้มากประสบการณ์อย่างโอลิวิเอร่านั้นไม่ใช่คนแบบนั้นเลย เขาเป็นคนที่ให้นักเตะสัมผัสประสบการณ์จริงแล้วหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้นแทน ซึ่งนั่นเลยทำให้จำเป็นต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นยาขมจึงทำให้กว่าจะได้ชัยชนะที่เสถียรภาพคงต้องเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้อีกสักพัก