เหลืออีกเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้นก่อนศึกเจลีกฤดูกาล 2019 จะเริ่มต้นขึ้น ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมาก็มีการย้ายทีมกันอย่างมากมาย นักเตะระดับทีมชาติก็ย้ายไปค้าแข้งในต่างชาติกันเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งในที่สุดสภาพทีมในเจลีกทั้งหมด 55 สโมสรก็เป็นอันลงตัวเป็นที่เรียบร้อย

  ท่ามกลางนักเตะเจลีกที่มีความหลากหลาย ก็มีนักเตะเกาหลีใต้และนักเตะบราซิลที่มีอิทธิพลหลักในโควต้านักเตะต่างชาติของเจลีกเป็นอย่างยิ่ง สำหรับนักเตะเกาหลีใต้นั้น เริ่มตั้งแต่มิดฟิลด์ FC Tokyo อย่าง Na Sang-ho กองหลังกัมบะโอซาก้าอย่าง Kim Young-gwon ที่พวกเขาล้วนแต่เป็นนักเตะทีมชาติเกาหลีรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นที่น่าสนใจก็ยังมีผู้รักษาประตู Kim Seung-gyu(Vissel Kobe) ผู้รักษาประตู Kim Jin-hyeon(Cerezo Osaka) กองหลัง Jung Seung-hyun(Kashima Antlers) และกองหน้าชื่อดังอย่าง Hwang Ui-jo(Gamba Osaka) ที่เป็นนักเตะทีมชาติผู้ลงศึกเอเชียนคัพ 2019 ที่ผ่านมา

  นักเตะฝีเท้าดีจาก K-League นั้นยังคงหลั่งใหลมาญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนังสือพิมพ์กีฬาหัวใหญ่ของเกาหลีใต้ Sport Seoul ออกมาพูดถึงบรรยากาศที่เกิดขึ้นของนักเตะเกาหลีที่ออกมาไขว่คว้าหาลาภยศและการเติบโตว่า "นักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ข้ามน้ำข้ามทะเล "แห่กันไปเจลีก" ที่นั่นมีอันตรายเฝ้าอยู่หรือไม่" ซึ่งนั่นก็คือการเขียนพาดหัวข่าวของสกู๊ปพิเศษ
 

  โดยทางหนังสือพิมพ์ได้ใช้ถ้อยคำว่า "คลื่นลูกที่ 3 กระแสไปญี่ปุ่น" พูดถึงสภาพของนักเตะในประเทศที่แห่กันไปค้าแข้งในญี่ปุ่นอย่างมากมาย "หากนักเตะปี 1990-2000 เป็นคลื่นลูกแรกแล้ว ปี 2010 เป็นต้นไปก็คือคลื่นลูกที่ 2 แต่คลื่นลูกใหม่ที่มานั้นมันสูงใหญ่จนสองคลื่นแรกเทียบไม่ติด" และ "อิทธิพลหลักของ DAZN ผู้ได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดนับตั้งแต่ปี 2016 นั้นมีสูงมากซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความคึกคักในเจลีก ก็เพราะสัญญาที่สูงถึง 2 ล้านล้านวอน(ประมาณ 56,000 ล้านบาท)เลยยังไงล่ะ" แล้วก็กล่าวชมว่า "นักเตะเกาหลีใต้นั้นมีทักษะที่ดี สามารถปรับตัวเข้ากับประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายจึงได้รับความนิยมเสมอ ก่อนหน้านี้เวลามีนักเตะคนไหนไปญี่ปุ่นก็จะได้รับคำตำหนิวิจารณ์ต่าง ๆ นานา ทว่าเรื่องดังกล่าวก็เป็นอดีตไปหมดแล้ว พวกเขาแต่ละคนล้วนเติบโตที่เจลีก ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น"

  แล้วก็เสริมอีกว่า "ในปี 2019 ทางเจลีกก็เพิ่มโควต้านักเตะต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย แบบนี้ยิ่งเป็นการต้อนรับนักเตะเกาหลีมากยิ่งขึ้น" และ "เพียงแต่นั่นก็มาซึ่งความกังวลที่มีไม่น้อยเลย หากถามว่าทำไมล่ะก็ ถึงอย่างไรนักเตะต่างชาติที่สามารถอยู่ในพื้นสนามได้นั้นก็ยังถูกจำกัดไว้ที่ 5 คนเหมือนเดิม"