อัตราการย้ายไปค้าแข้งที่ต่างชาติของนักเตะญี่ปุ่นนั้นเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2010 ที่ทวีปแอฟริกาจบลง ในตอนนั้นมีเพียงนักเตะ 4 คนที่เล่นอยู่ในลีกต่างชาติเท่านั้น แต่หลังจากจบทัวร์นาเมนต์นักเตะอย่าง นากาโทโมะ ยูโตะ, อุจิดะ อัตสึโตะ, โอกาซากิ ชินจิ, คาวาชิมะ เอย์จิ และ อาเบะ ยูกิ ก็ได้ย้ายไปค้าแข้งในยุโรป ส่วนคากาวะ ชินจิ ที่ไม่ติดโผ 23 ซามูไรนั้นก็ได้ไปเล่นเล่นให้กับสโมสรดอร์ทมุนด์และอยู่ในชุดทีมที่คว้าแชมป์อย่างมากมาย
  ส่วนทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปี 2011 ด้วยการนำทีมของหัวหอกอย่างลี ทาดะนาริ ผู้ยิงลูกวอลเลย์สุดสวยในนัดชิงชนะเลิศก็ได้ย้ายไปเล่นในลีกต่างชาติด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีนักเตะทีมชาติรุ่นนั้นอย่างโฮโซไก ฮาจิเมะ, มากิโนะ โทโมอากิและอิโนฮะ มาซาฮิโกะที่ไปเล่นลีกต่างชาติด้วยกัน 
  ตัวตนของคากาวะผู้มีส่วนร่วมให้ทีมชาติญี่ปุ่นไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกนั้นเขาได้สร้างกระแสอันยิ่งใหญ่จนทำให้ชื่อเสียงของนักเตะญี่ปุ่นมีความโด่งดังและเป็นที่ยอมรับในลีกยุโรปมากยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่าเขาเป็นจุดพลิกผันสำคัญต่อสายตาของชาวโลกที่มีกับนักเตะแดนอาทิตย์อุทัย

  ทว่าหลังจบฟุตบอลโลกที่รัสเซียแล้วกลับมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คากาวะผู้ช่วยให้ทีมชาติญี่ปุ่นเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายกลับไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามกับสโมสรต้นสังกัดอีกต่อไป แม้เจ้าตัวใจอยากจะย้ายไปเล่นกับสเปนแต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไปยังตุรกีที่เป็นประเทศคนละฝั่ง ส่วนอินุอิ ทาคาชิผู้ยิง 2 ประตูในทัวร์นาเมนต์ก็ย้ายจากเรอัลเบติสไปอยู่สโมสรอาลาเบสเพื่อคาดหวังถึงตำแหน่งนักเตะตัวจริงที่คงทน  นอกจากนั้นโยชิดะ มายะ, ชิบาซากิ กาคุและโอกาซากิ ชินจินั้นก็กลายเป็นกลุ่มนักเตะที่หาโอกาสลงสนามได้อย่างยากลำบากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้

  ในทางตรงกันข้าม นากาจิมะ โชยะ ผู้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับศึกฟุตบอลโลกนั้นมีค่าตัวสูงถึง 35 ล้านยูโร กลับกลายเป็นว่าตอนนี้สายตาจากทั้งโลกย้ายมาจับจ้องที่ตัวของนักเตะรุ่นใหม่ชุดความหวังโอลิมปิกกันแล้วทั้งนั้น ทางส่วนของโทมิยาสุ ทาเคฮิโระที่ย้ายไปเล่นอยู่ยุโรปมาพักหนึ่งแล้ว(กับสโมสร Sint-Truidense) และโดอัน ริตสึ (Groningen) นั้นมีข่าวลือเรื่องการแย่งซื้อตัวของพวกเขาอย่างแพร่สะพัด หรือจะเป็นตัวของอิตาคุระ โค นักเตะที่ถูกทีมแมนซิตี้ซื้อตัวแล้วปล่อยให้ไปยืมตัวอยู่กับสโมสร Groningen ที่เรียกได้ว่ากล้าเดิมพัน ส่วนท้ายที่สุดนั้นก็ตัวของนากายามะ ยูตะ ที่ตัดสินใจย้ายไปเล่นอยู่กับ PEC Zwolle แห่งลีกดัทช์
 

  นักเตะญี่ปุ่นในระดับโลกนั้นขึ้นชื่อเรื่องตำแหน่งมิดฟิลด์ที่มีเทคนิคชั้นเชิงสูง สโมสรที่ต้องการซื้อตัวจึงดูทั้งผลงานกับในสโมสรและอีกหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย ทว่านั่นเป็นอดีตไปแล้ว ในช่วงหลังมานี้ลีกฟุตบอลในฮอลแลนด์ เบลเยี่ยมและโปรตุเกสนั้นต่างก็ให้ความสนใจกับนักเตะอายุน้อย เหมือนดังเช่นอิโต้ อัตสึยะที่เล่นอยู่ในฮัมบูกร์ เริ่มมีสโมสรยุโรปที่จับนักเตะเซ็นสัญญาตั้งแต่ออกจากอคาเดมี่ในญี่ปุ่นสด ๆ ร้อน ๆ เลย

  ผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังนั้น ก็คงหนีไม่พ้นทาง JFA(สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น) หรือสโมสรในเจลีกเป็นแน่ แต่ไหนแต่ไรนักเตะญี่ปุ่นหากเทียบเบอร์กระดูกแล้วก็ด้อยกว่าต่างชาติอย่างเห็นได้ชัด สำหรับลีกท้องถิ่นที่ได้มาเห็นฟอร์มของนักเตะญี่ปุ่นในปัจจุบันนั้นคงรู้สึกตกใจในความหมายที่ดีเป็นแน่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นเป้าสายตาจากแมวมองของทางต่างชาติมากยิ่งขึ้น จนล่าสุดก็เป็นการจองตัวไว้ตั้งแต่ก่อนจะเทิร์นโปรเลยเช่นนี้