นับตั้งแต่ได้ลงแข่งเอเชียนคัพครั้งแรกในปี 1980 เป็นต้นมา นี่ก็เป็นครั้งที่ 4 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี(จากนี้ไปจะเรียกแค่เกาหลีเหนือ) ได้กลับมาลงแข่งศึกเอเชียนคัพอีกครั้ง ซึ่งในปี 1980 คว้าอันดับที่ 4 ที่เป็นอันดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศได้ ส่วนในปี 1992, 2011 และ 2015 นั้นต่างก็ตกรอบคัดเลือกกรุ๊ปสเตจทั้งหมดทั้งสิ้น

  การลงแข่งอีกครั้งซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องนั้น ทีมชาติเกาหลีเหนืออยู่ในกรุ๊ป E ซึ่งจะเจอกับซาอุดิอาราเบียในวันที่ 9 เจอกับกาตาร์ในวันที่ 13 และเจอกับเลบานอนในวันที่ 18 ไม่ว่าจะทีมไหนต่างก็เป็นทีมที่เหนือกว่าเกาหลีเหนือกันทั้งหมด

  ทีมชาติเกาหลีเหนือชุดนี้นั้นอยู่ภายใต้การคุมของ Kim Yong-jun วัย 35 ปี อดีตผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ที่เพิ่งแขวนสตั๊ดเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน การแข่งขัน 6 นัดที่ผ่านมาผลชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้ 2 แม้ 2 สโมสรที่คว้าชัยได้จะเป็นมองโกเลียและไต้หวันที่อยู่ในช่วงชั้นด้อยกว่าก็ตาม แต่การแข่งขันนัดกระชับมิตร 2 นัดก่อนลงศึกเอเชียนคัพที่เวียดนามนั้นทีมชาติเกาหลีเหนือก็ไม่อาจเก็บชัยชนะได้เลย (เสมอเวียดนาม 1-1 และแพ้บาเรน 0-4)

  หากไม่ได้มองโลกในแง่ดีอะไร สิ่งเดียวที่น่าจะทำให้ทีมชาติเกาหลีเหนือสามารถไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ในรอบ 39 ปีนั้นคงเป็นเรื่องกลุ่มนักเตะที่ออกไปเล่นอยู่นอกประเทศ

  ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ก็มีนักเตะทีมชาติเกาหลีเหนือที่เล่นอยู่ในลีคยุโรปอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น Kwang Song Han ที่สังกัดอยู่สโมสร Calgliari ของอิตาลีแต่ถูกยืมตัวไปเล่นให้ Perugia หรือจะเป็น Pak Kwang-ryong ที่เล่นอยู่ในลีคออสเตรียกับสโมสร SKN St. Pölten เป็นต้น แนวโน้มที่นักเตะเกาหลีเหนือจะได้ค้าแข้งกับต่างชาตินั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

  จากการได้มีโอกาสสัมภาษณ์ตัวของ Jong Il-gwan โดยตรงเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีก่อน ณ ประเทศไต้หวันนั้น เขาก็เป็นนักเตะอีกหนึ่งคนที่มีโอกาสได้เล่นในลีคต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาก่อน  รวมทั้งเขายังเป็นกัปตันของนักเตะทีมชาติชุดนี้อีกด้วย

  "ผมเล่นอยู่กับสโมสร FC Luzern ในสวิสมาก่อนครับ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างปี 2017-2018 ก็ตาม แต่สำหรับผมแล้วมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริง ๆ ครับ"

  จองอิลกวานที่เกิดในปี 1992 นั้น เขาคว้าตำแหน่ง MVP ในศึกเอเชียนคัพ U-19 ประจำปี 2010 จากผลงานที่แสนโดดเด่น นอกจากนั้นยังคว้ารางวัลนักเตะเยาวชนยอดเยี่ยมจากทาง AFC ภายในปีเดียวกันด้วย โดยในส่วนผลงานกับทีมชาติชุดใหญ่นั้น เขาลงเล่นมาทั้งหมด 63 นัดและทำประตูได้สูงถึง 21 ลูกซึ่งกลายเป็นประวัติศาสตร์สูงสุดของศูนย์หน้าเกาหลีเหนือ เขาได้มาร่วมทัวร์นาเมนต์ EAFF E-1 ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2017 โดยสวมเสื้อหมายเลข 11 กลางแผ่นหลัง

  การแข่งขัน E-1 รอบที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาในประเทศไต้หวันเองนั้น ตัวตนของเขาก็มีความโดดเด่นมาก ซึ่งความโดดเด่นของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ในสนาม แต่ในพื้นที่สาธารณะเขาก็ดูโดดเด่นจนสามารถสัมผัสได้

  แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีภาพลักษณ์ว่านักกีฬาทีมชาติเกาหลีเหนือมักจะเมินเฉยต่อการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศอาทิญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้มาก่อน ทว่าพอวันนี้ผู้เขียนทักไปว่ามาจากญี่ปุ่นและต้องการขอสัมภาษณ์ เขาก็ตอบกลับมาว่า "อุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่เลย ขอบคุณครับ" แล้วก็หยุดยืนอยู่กับที่พร้อมกับต้อนรับด้วยรอยยิ้ม