มีนักเตะชาวญี่ปุ่นที่ถูกเรียกขานเป็น "KING" ในราชอาณาจักรไทยที่ตัวตนของพระราชามีความยิ่งใหญ่แสนพิเศษ เขาก็คือนักฟุตบอลมืออาชีพ ซารุตะ ฮิโรโนริ นั่นเอง ซารุตะค้าแข้งอยู่ในไทย 9 ปี ด้วยผลงานความสำเร็จของเขาจึงทำให้นักเตะชาวญี่ปุ่นรุ่นหลังที่ค้าแข่งในลีคไทยต่างก็ยกย่องเขาด้วยความเคารพ
วันนี้เรามาขอสัมภาษณ์เขาในช่วง Off Season เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ กัน
――◆――◆――
―――ที่จริงแล้วผมเห็นคุณอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวที่สนามแข่งบ่อยมากเลย ไม่ว่าจะมองดูทีไรก็รู้สึกอบอุ่นตลอดเลยล่ะครับ
"งั้นเหรอครับ(หัวเราะ) แต่ความรักของครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีมากเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะกับพ่อแม่หรือกับพี่น้องด้วย ลูกสองคนของผมที่อายุห่างกันสองปี (ลูกชายอายุ 6 ขวบและลูกสาวอายุ 4 ขวบ) ต่างก็เกิดที่เมืองไทยครับ ตอนคลอดลูกสาวเนี่ยภรรยาของผมต้องคอยประกบอยู่กับลูกตลอดเลย มันเลยทำให้ผมต้องพาลูกชายไปกลับที่สนามฝึกซ้อมที่ห่างจากบ้านถึง 40 กิโลทุกวันเลยล่ะครับ พอนึกย้อนแล้วก็คิดถึงดีเหมือนกัน ตอนที่ผมกำลังฝึกซ้อมอยู่นั้นก็ได้ทีมงานของทางสโมสรไม่ก็แฟนสาวของพวกนักเตะช่วยดูแลให้ครับ เลยทำให้คนในครอบครัวต่างก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เมืองไทยอย่างมากจริง ๆ"
―――ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องชีวิตในไทย รบกวนช่วยเล่าถึงช่วงสมัยยังค้าแข้งกับ Ehime FC ให้ฟังสักหน่อยจะได้ไหมครับ
"ปีแรกที่เข้าร่วมทีม Ehima FC นั้นยังเป็นลีค JFL อยู่เลยครับ เรียกได้ว่าเป็นลีคแบบกึ่งมืออาชีพ ตอนเช้าผมต้องไปที่โรงเรียนชั้นประถมแล้วก็ทำงานเป็นคุณลุงภารโรงครับ ต้องรอรับเด็กอยู่หน้าทางเข้าโรงเรียนตอน 6 โมงเช้าเสร็จแล้วก็ไปทำงานในฐานะภารโรงแล้วช่วงบ่ายก็ร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อน ๆ ครูในห้องพักครูครับ หลังจากนั้นผมก็ไปฝึกซ้อมกับทีมในทีหลัง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกสนุกสนานในทุกวันเลยล่ะครับ พอนึกย้อนดูแล้วก็เป็นความทรงจำที่ดีมากจริง ๆ"
―――หลังจากนั้นก็ไปอยู่สิงคโปร์ 1 ปี แล้วก็มาไทย 9 ปี... อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้มาค้าแข้งที่ต่างชาติเหรอครับ?
"ได้รับอิทธิพลมาจากชิบามุระ นาโอยะ ที่เป็นเพื่อนแถวบ้านครับ(ชิบารุมะ นาโอยะ เคยค้าแข้งอยู่ที่ฟุคุโอกะ โทคุชิมะ ทตโตริ ลัตเวีย โปแลนด์และอุซเบกิสถาน) อันที่จริงก่อนที่ผมจะมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมไปทดสอบกับทางอเมริกามาก่อนครับ ที่ตอนนั้นไปก็เนื่องด้วยความรู้สึกที่จะค้าแข่งอยู่ในลีค MLS ร่วมกับนักเตะที่ผมชื่นชอบอย่างเดวิด เบ็คแฮม ผมใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่ได้เรื่องของผมในการเขียนรีซูเม่แล้วก็เข้าไปรับการทดสอบที่ Miami อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยครับ หลังจากนั้นก็ใช้เส้นสายของทางพ่อแม่ที่มีเพียงเล็กน้อยในการหาที่พักแถว Houston
การทดสอบที่ยาวถึง 3 เดือนเนี่ยไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายจริง ๆ เลยครับ
จนกระทั่งพอเงินเก็บ 1 ล้านเยนที่มีมันหมดไปอย่างรวดเร็วจนต้องล้มความฝันแล้วกลับประเทศนั้น ในตอนนั้นก็มีข้อเสนอจากทีมสิงคโปร์ (Balestier Khalsa) ส่งมาครับ ถึงแม้จะคัดค้านมากก็ตามแต่ผมก็อยากลองดูสักตั้ง
สาเหตุที่ทำให้ผมยังอยู่ที่เมืองไทยแบบนี้ก็เพราะประสบการณ์จากการไปที่อเมริการวมทั้งการค้าแข้งที่สิงคโปร์ตลอดครึ่งปีด้วยครับ ผมรู้สึกซาบซึ้งกับสภาพแวดล้อมหลายอย่างที่ทำให้ผม "รู้สึกตัว" มากจริง ๆ ครับ"
ชีวิตสุดผกผันของนักเตะที่ชาวไทยขนานนามว่าเป็น KING-- หนึ่งในนักเตะญี่ปุ่นที่ชนาธิปคลั่งไคล้
カテゴリ:海外日本人
2018/09/13