โออิตะคือสโมสรที่ไม่พึงความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะแต่อย่างไร จากฤดูกาลก่อนที่เล่นใน J2 นั้นต่อให้ทีมจะขาดนักเตะไปแค่คนเดียวแต่ก็ยังสามารถแสดงเสถียรภาพออกมาได้ ทว่าเจ้าของผลงานในนัดเปิดสนาม 2 ลูกพร้อมกับบันทึกสถิติยิงในครึ่งฤดูกาลแรกไป 8 ลูกอย่างฟุจิโมโตะที่เปรียบเสมือนภาพลักษณ์ความพัฒนาต่อเนื่องของโออิตะนั้นเขามีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในนัดที่เจอกับมัตสึโมโต้แล้วจบกันโดยยิงประตูไม่ได้นั้นทางกุนซือคาตาโนะซากะก็ยังให้สัมภาษณ์ว่า "พอฟุจิโมโตะย้ายออกไป ดูเหมือนว่าความสามารถในการจบสกอร์นั้นจะลดน้อยลงไปนิดนึงด้วย" เจ้าตัวระบุเช่นนั้น
การเสียฟุจิโมโตะที่เป็นดาวยิงของทีมไปนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าชอกช้ำจริงอยู่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปจริง ๆ นั้นคือการที่ทีมขาดแคลนกองหน้า ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกให้ฟุจิโมโตะเป็นหน้าเป้าส่วนโอไนอูเป็นหน้าต่ำถือว่ามีไพ่เลือกใช้ทั้งหมด 2 ใบ(ยังมีหน้าต่ำอีกหนึ่งคนโคซึกะ คาซุกิที่เป็นนักจ่าย) ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังให้โอไนอูเป็นหน้าเป้า ส่วนหน้าต่ำเป็นโคซึกะกับฐิติพันธ์ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับธรรมชาตินั้นก็ถูกเลื่อนให้มาเล่นหน้าต่ำหลายครั้งด้วย เพราะฉะนั้นศูนย์หน้าตัวยิงจึงมีเพียงแค่โอไนอูเพียงคนเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่าโคซึกะก็มีการจ่ายลูกจังหวะสุดท้ายเพื่อจบสกอร์ที่ดีเยี่ยม ส่วนฐิติพันธ์ที่มีพลังกายสมบูรณ์แบบนั้นก็สามารถช่วงชิงบอลจากแนวหน้าได้ เพียงแต่ว่าหากเปรียบเทียบกับสมัยที่ใช้กองหน้าสองคนกับตอนนี้ที่เป็นกองหน้าหนึ่งเดียวแล้วตัวรองเป็นโคซึกะกับฐิติพันธ์นั้นภาพรวมจะออกไปทาง "แย่งสกอร์" แทน โอกาสทำเกมจากริมเส้นแล้วเข้าพื้นที่ทำประตูนั้นมีปริมาณลดน้อยลงไป
เพราะฉะนั้นคีย์แมนผู้ที่จะขจัดปัญหาเหล่านี้ได้ก็เป็นของอิสะ โคเฮย์ ศูนย์หน้าของทีม
โออิตะที่ครึ่งฤดูกาลแรกก้าวเดินต่อเนื่อง... แต่ตอนนี้หยุดชะงักแล้ว? คีย์แมนหัวใจสำคัญที่จะทวงคืนพลังให้กับทีมคือ...
カテゴリ:Jリーグ
2019/09/04
คีย์แมนในครึ่งฤดูกาลหลังคือ...

อิสะที่กลับมาลงสนามอีกครั้งในรอบ 5 เดือน คาดหวังถึงผลงานของเขาต่อจากนี้เป็นอย่างยิ่ง
ภาพโดย: โมโตกิ อากิระ(Soccer Digest Editorial Desk)
ในฤดูกาลก่อนอิสะลงสนามในเกมลีกทั้งหมด 34 นัด เขามีโอกาสลงสนามมากกว่าเหล่า 4 นักเตะที่ทำประตูขึ้น 2 หลัก(ฟุจิโมโตะ 26 นัด 12 ประตู/บาบะ เคนจิ 31 นัด 12 ประตู/โกโต้ ยูสุเกะ 28 นัด 10 ประตู/มิตสึฮิระ คาซึชิ 30 นัด 10 ประตู) นอกจากนั้นยังมีโอกาสจบสกอร์ที่แนวหน้ามากกว่าใครอีกด้วย กระนั้นหากดูสถิติที่เจ้าตัวทำได้เพียง 4 ประตูนั้นก็ดูออกจะขาดแคลนไปเสียหน่อย บทบาทของเขาเป็นการเปลี่ยนฝั่งหรือตัวพักบอลที่แนวหน้าเสียมากกว่า
อิสะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าข้างซ้ายในวันที่ 13 มีนาคมในศึกชิงถ้วยเลอะวันกับนาโกย่า เขาจำเป็นต้องพักรับการรักษายาว 4 เดือนจนล่าสุดในเกมที่เจอกับมัตสึโมโต้นั้นเจ้าตัวก็ได้ลงสนามอีกรอบนับเป็นการแข่งขันนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้ที่ J1 ของเขา ซึ่งในนัดนี้เจ้าตัวก็แสดงผลงานการเป็นตัวพักบอลในแนวหน้าออกมาได้อย่างรวดเร็วตามความคาดหวังอีกด้วย
อิสะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าข้างซ้ายในวันที่ 13 มีนาคมในศึกชิงถ้วยเลอะวันกับนาโกย่า เขาจำเป็นต้องพักรับการรักษายาว 4 เดือนจนล่าสุดในเกมที่เจอกับมัตสึโมโต้นั้นเจ้าตัวก็ได้ลงสนามอีกรอบนับเป็นการแข่งขันนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้ที่ J1 ของเขา ซึ่งในนัดนี้เจ้าตัวก็แสดงผลงานการเป็นตัวพักบอลในแนวหน้าออกมาได้อย่างรวดเร็วตามความคาดหวังอีกด้วย