Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • คว้าสองแชมป์สมัยม.ปลาย แต่ล้มเหลวเมื่อมหาลัย... ชีวิตที่ขึ้นลงของมิดฟิลด์ญี่ปุ่นวัย 30 ปีศิษย์เก่าริวซือเคเซคาชิวะผู้เทิร์นโปรการค้าแข้งที่เมืองไทย

คว้าสองแชมป์สมัยม.ปลาย แต่ล้มเหลวเมื่อมหาลัย... ชีวิตที่ขึ้นลงของมิดฟิลด์ญี่ปุ่นวัย 30 ปีศิษย์เก่าริวซือเคเซคาชิวะผู้เทิร์นโปรการค้าแข้งที่เมืองไทย

カテゴリ:海外日本人

佐々木裕介

2019/08/22

การพัฒนาเมืองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พบเจอเรื่องน่าประหลาดใจหลายอย่าง กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าอยู่ง่ายกว่าญี่ปุ่นแล้ว

ภาพของโคจิมะที่กำลังเตรียมลงสนาม เขาค้นพบหลายสิ่งหลายอย่างที่เมืองไทยนอกเหนือจากฟุตบอลอีกด้วย

ภาพโดย: ซาซากิ ยูสุเกะ

画像を見る

――พอได้เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพที่ไทย มีอะไรที่ทำให้รู้สึกดีหรือเปล่าครับที่ยังเล่นฟุตบอลต่อไปแบบนี้
 
  "ก็มีหลายอย่างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยอมรับของพวกพ้องในทุกที่ที่ผมไป ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์ระหว่างคนเราได้เลยครับ นั่นก็รวมไปถึงแฟน ๆ ด้วย มีหัวหน้ากองเชียร์ท้องถิ่นที่เตรียมเค้กวันเกิดให้กับผมด้วยครับ แฟน ๆ ทุกคนต่างก็ร่วมร้องเพลงวันเกิดให้กับผมด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดี ๆ อย่างเดียวหรอกนะครับ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็โดนค้างค่าเหนื่อย พอผมมีครอบครัวด้วยก็ยิ่งลำบากไปเลยครับ แต่มันก็ทำให้มีความแข็งแกร่งในชีวิตเพิ่มมากขึ้น(ยิ้ม)"
 
――การสูญเสียวัยหนุ่มไปจากการบาดเจ็บสาหัสที่มหาลัย จนได้กลายเป็นผู้ใหญ่เมื่อมาสั่งสมประสบการณ์ข้ามน้ำข้ามทะเล เรียกได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการท้าทายสินะครับ
 
  "ในตอนที่ยังเลือกเส้นทางอนาคตต่อไม่ได้ในญี่ปุ่น พูดตามตรงแล้วผมมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีกับเมืองไทยเท่าไรครับทั้งที่ตัวเองไม่เคยมาเมืองไทยก่อนเลยแท้ ๆ ในตอนนั้นที่มาเป็นครั้งแรกนี่ผมมีแต่ความกังวลอย่างเดียวเลยครับ แต่แล้วผมก็ตกใจกับความรวดเร็วในการพัฒนาเมือง ผมกับครอบครัวพบเจอเรื่องน่าประหลาดใจหลายอย่าง กลายเป็นว่ากว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่อาศัยง่ายกว่าญี่ปุ่นไปแล้ว แน่นอนครับว่าการอาศัยอยู่ต่างประเทศนั้นก็มีพบเจอกับปัญหาบ้าง ปกติจะทำสัญญาไม่กี่ปี ก็มีความกังวลกับความลำบากในการหาทีมใหม่เหมือนกันครับ แต่หลังจากที่แบกรับความเสี่ยงมาในระดับหนึ่งแล้วมันก็ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ครับ ดีใจจริง ๆ ที่ลองท้าทายดู"
 
――อาจจะเหมาะกับเวทีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาด้วยหรือเปล่าครับ
 
  "ครับ ตอนไปที่บังคลาเทศแล้วเจอระดับความแตกต่างในโครงสร้างสาธารณูปโภคนี่ก็เล่นเอาจุกเหมือนกันครับ ตอนที่ไปทดสอบฝีเท้าที่ตะวันออกกลางดูก็ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงพลังของทีมเก่าแก่ที่เข้าแคมป์เก็บตัวในรีสอร์ทสุดหรูเลยครับ มีลงศึก AFC Cup ที่ไปทั้งอินเดียและมัลดีฟด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นสิ่งกระตุ้นไม่ว่าจะดีหรือร้าย แม้กระทั่งเมืองไทยเอง บรรยากาศของเมืองใหญ่กับเมืองเล็กก็แตกต่างกันมากเลย เอเชียนี้กว้างใหญ่มาก สิ่งกระตุ้นมีมากขึ้น ผมก็จะพยายามอย่างมากขึ้นครับ ทั้งหมดก็เพื่อครอบครัวที่คอยให้กำลังใจผมเสมอด้วย"
 
  เมื่อฟังเรื่องราวจากปากแล้วก็สัมผัสได้ว่าเขาผ่านชีวิตที่เต็มไปด้วย "สายสัมพันธ์" และ "โชคชะตา" อย่างมากมาย การตัดสินใจครั้งใหญ่อย่างเรื่องการเรียนต่อรวมไปถึงการข้ามน้ำข้ามทะเล ทุกอย่างก็เกี่ยวข้องกับ "สายสัมพันธ์" ของคนที่กล่าวทักทายในการเลือกสถานที่แสดงฝีเท้าอีกด้วย
 
  พอมีผลงานที่เมืองไทยก็อาจจะทำให้ได้รับการยอมรับในความสามารถด้วยกระมัง แต่มันคงไม่ใช่แค่นั้นแน่ สิ่งสำคัญคือความเชื่อใจที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง มันคือการชักนำโชคชะตาจนลิขิตชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
 
  ผู้เขียนที่เดินทางไปสัมภาษณ์ที่สนามแข่งขัน หลังการแข่งขันจบลงโคจิมะก็อุ้มลูกสาวเดินเข้ามาหา ก่อนจากกันลูกสาวก็ยกมือไหว้ผู้เขียนอย่างอ่อนหวาน พอเห็นหนูน้อยที่มีจิตใจแห่งความนอบน้อมและขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับผู้เป็นพ่อนั้น ก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกได้รับการชำระล้างทางจิตใจไปโดยปริยาย การที่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ลูกเจริญรอบตามพ่อแม่นั้น บางทีคงเป็นวัฒนธรรมที่แบ่งปันร่วมกันทั้งโลกก็ได้กระมัง
 
■ประวัติ
โคจิมะ เซยะ

เกิดปี 1989 มีภูมิลำเนาที่เมืองชิมตสึกะกุนโนงิจังหวัดโทชิงิ คว้าแชมป์ 2 รายการในปี 2007 สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับโรงเรียนมัธยมปลายริวซือเคไซได(การแข่งขันระดับเยาวชนและการแข่งขันฟุตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ)ได้รับการจับตามองอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่รั้วมหาลัยริวซือไคเซกับชมรมฟุตบอล แต่อาการบาดเจ็บสาหัสก็กลายเป็นความทรงจำอันขมขื่น ในปี 2012 เดินทางมาที่ประเทศไทยและกลายเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ มักจะคอยเปล่งเสียงให้กำลังใจทีมในช่วงอลหม่านเสมอ บุคลิกดังกล่าวนั้นทำให้คว้าหัวใจของแฟน ๆ ได้อย่างว่องไว ในฤดูกาลนี้เล่นอยู่กับสโมสรบีจีปทุมยูไนเต็ด(ลีก 2) เป็นหนึ่งในหัวหอกคนสำคัญที่จะช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับไปเล่นลีกสูงสุดอีกครั้ง แม้เขาจะไม่มีจุดเด่นที่โฉบเฉี่ยวมากนัก แต่ก็เป็นผู้ทำหน้าที่รักษาสมดุลที่จะเอื้อมมือไปช่วยในจุดอันตรายเสมอ
 
ข่าวโดย ซาซากิ ยูสุเกะ

Facebookでコメント