นายทวารมือหลักของดอร์ทมุนด์อย่างโรมัน เบือร์คีนั้นหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ส่วนมาร์โค รอยส์ที่ติดโทษใบแดงในศึก Ruhrderby ไปนั้นก็พ้นโทษได้กลับมาสวมปลอกแขนกัปตันในนัดนี้ พวกเขาดูวีดีโอศึกษาเพื่อหาทางรับมือกับบาเยิร์oมาอย่างเต็มที่

  การแข่งขันนัดนี้จำเป็นต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นดอร์ทมุนด์จึงมีพันธกิจที่ต้องทำให้สำเร็จให้ได้ การเล่นด้วยความปลดปล่อยนั้นจะเป็นความกล้าหาญที่นำไปสู่ชัยชนะ ที่เหลือก็ต้องภาวนาให้มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่มิวนิก ต่อให้ขบคิดมากไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาทั้งนั้น พวกเขาแค่ทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ก็พอ

  ในส่วนของทางบาเยิร์นที่ต้องทิ้งห่างนั้น พวกเขาก็มีเหตุผลที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ เพราะนี่คือการแข่งขันนัดสุดท้ายของผู้เล่นวัยเก๋าของทีมทั้ง 3 คนทั้งฟร็องก์ รีเบรี, อาร์เยน ร็อบเบนและราฟินญา

  ในส่วนของราฟินญานั้นเขาให้สัมภาษณ์พร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมาว่า

  "แม่ผมที่บราซิลโทรมาหาเป็นประจำครับ แม่ไม่เคยถามผมเรื่องผลการแข่งขันหรือผลงานของผมกับทีมเลย ปกติแม่จะเน้นย้ำเรื่องความประพฤติของผมให้ไม่ไปรบกวนเพื่อนร่วมทีมหรือสต๊าฟเข้า

  ผมต่อสู้ที่บาเยิร์นเพื่อทีมและเพื่อบรรยากาศในทีมเสมอ เพราะฉะนั้นผมเลยไม่ได้รู้สึกเศร้าที่การแข่งขันนัดต่อไปจะเป็นนัดสุดท้ายหรอกนะครับ ที่ผมเศร้าเพราะวันวานกับพวกพ้องที่แสนยอดเยี่ยมของผมนั้นมันจะจบลงแล้วต่างหาก"

  พอฟังถ้อยคำของราฟินญาจบแล้วนั้น เหล่าเพื่อนนักเตะแต่ละคนต่างก็รับคำพูดของเขาเอาไว้ มีบางคนที่แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

  นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าตัวตนของเขามีความสำคัญมากแค่ไหน แม้เขาอาจจะไม่ใช่เสาหลักของทีมที่ลงสนามในทุกการแข่งขันก็ตาม แต่กระนั้นบาเยิร์นยังจำเป็นต้องมีชายที่ชื่อราฟินญาอยู่

  แน่นอนว่านั่นก็รวมไปถึงรอบเบนและริเบรีเช่นกัน นัดสุดท้ายของพวกเขาสองคนผู้ก่อสร้างยุคสมัยของบาเยิร์นใกล้จะจบลงแล้ว นับตั้งแต่ที่พวกเขาย้ายมาเล่นในบุนเดสลิก้านั้นก็เป็นการยกระดับของลีกขึ้นไปแล้วอย่างไม่ผิดแน่

  คาดการณ์กันว่าร็อบเบนจะได้เล่นตัวจริงในนัดสุดท้ายแล้วทำประตูชัยให้กับทีม "ถ้าเป็นแบบนั้นต้องยอดเยี่ยมที่สุดแน่" เขายิ้มออกมา

  ส่วนทางริเบรีนั้น "บาเยิร์นนั้นคอยสนับสนุนผมอยู่เสมอแม้กระทั่งช่วงเวลาที่นอกสนามด้วย" เขาพูดถ้อยคำที่แสนซาบซึ้งออกมา เพราะฉะนั้นการแข่งขันนัดสุดท้ายนี้ ความรู้สึกเหล่านั้นต้องเกิดขึ้นกับทั้งเพื่อนร่วมทีมและแฟน ๆ ที่อยู่ในสนามแน่