เครือ CFG Group ที่ทำการตลาดทั่วทั้งโลกนั้น ตั้งเป้าหมายจะเป็นหนึ่งให้ได้ทั้งในและนอกสนาม นั่นจึงหมายความว่านี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดก็ว่าได้
อาจจะสามารถฟันธงได้ว่า การคว้าตัวอิตาคุระ โค เข้ามาร่วมสโมสรนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นขุมกำลังหลักสำหรับอนาคต บางที CFG Group อาจจะทำเพื่อเป็นกลยุทธ์การรุกตลาดภูมิภาคเอเชียล้วน ๆ เลยก็ว่าได้
จากนั้นคุณเบรนนันก็เขียนสรุปว่า
"การได้เล่นในลีกดัทช์นั้น ก็มีความหมายว่าในอนาคตเขาอาจจะได้กลับมาเล่นที่แมนเชสเตอร์อีกครั้ง แต่ตราบใดที่ไม่สร้างฟอร์มอย่างโดดเด่นออกมาล่ะก็ คงจะได้ไปเล่นที่ New York City, Melbourne City หรือ Yokohama F Marinos ที่อยู่ในเครือซิตี้เองเป็นแน่"
ทำไมแมนซิตี้ถึงคว้าตัวอิตาคุระ โค!? ความคาดหวังของสโมสรและมูลค่าที่แท้จริงจากตัวอย่างในอดีต【สดจากสนาม】
カテゴリ：メガクラブ
2019/01/30
ทำไม City Group ถึงคว้าตัวอิตาคุระ โค?
การคว้าตัวอิตาคุระ โคอย่างสุดสายฟ้าแลบของยักษ์ใหญ่ในวงการลูกหนังโลกอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้น น่าสนใจเหลือเกินว่าเขาเห็นอะไรในตัวนักเตะโลว์โปรไฟล์ชาวญี่ปุ่นคนนี้กัน? (ภาพจากทวิตเตอร์ของทั้ง 2 สโมสรในการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะยืมตัวกับสโมสร Groningen)
ทางผู้เขียนเคยมีโอกาสไปสัมภาษณ์ ไบรอัน เมอร์วู้ด ตำแหน่ง Managing Director of Global Football ของทางซิตี้ที่เป็นหนึ่งในระดับผู้บริหาร ในตอนนั้นเป็นช่วงไม่กี่เดือนก่อนที่นักเตะญี่ปุ่นอย่างอิชิเกะ ฮิเดกิได้มีโอกาสเข้าไปรับการฝึกซ้อมชั่วคราว (ปัจจุบันเป็นนักเตะของสโมสร Shimizu S-Pulse) การสัมภาษณ์ในคราวนั้นมีประเด็นที่พูดถึงความเป็นไปได้ที่แมนซิตี้จะคว้าตัวนักเตะญี่ปุ่นเข้าทีมหรือไม่
ตอนนั้นคุณไบรอันเปิดเผยกลยุทธ์การรุกเอเชียออกมาให้ฟังว่า
"นักเตะชาวเอเชียไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้และจีนนั้นมีชื่อเสียงในอังกฤษด้วย ก่อนหน้านี้แมนซิตี้มีนักเตะจีนอย่าง Sun Jihai อยู่ในทีมมาก่อน ชื่อเสียงของเขานั้นก็โด่งดังในระดับสูงเลยครับ นั่นจึงหมายความว่าถ้ามีนักเตะญี่ปุ่นคนไหนที่ได้เข้าร่วมสโมสรซิตี้ล่ะก็ นั่นจะกลายเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งเลย
ในการจะคว้าตัวนักเตะเอเชียนั้น ต้องยอมรับว่าบางครั้งก็เป็นมุมมองในเชิงของการตลาดด้วยครับ การมีเรื่องของโฆษณามาด้วยนั้นถือเป็นเรื่องที่สร้างความยินดีให้กับทางเราได้อย่างไม่น้อย แต่กระนั้นถ้ามีนักเตะคนไหนที่ทำประตูได้ 20-25 ลูกในแต่ละฤดูกาลล่ะก็ กำแพงของพรมแดนก็จะไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไปแล้วล่ะครับ"
พอผู้เขียนอ่านบันทึกที่เคยไปสัมภาษณ์มาก่อนนั้น จึงทำให้ได้บรรยากาศประหนึ่งว่า "ทางซิตี้ยอมรับในความสามารถของอิชิเกะ แต่ก็ไม่คิดจะคว้าตัว"
เพราะฉะนั้นการคว้าตัวอิตาคุระ โคในหนนี้บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแค่การตลาดตามที่หลาย ๆ คนคิดเอาไว้ สามารถพูดได้ในอีกนัยหนึ่งว่า นี่ไม่ใช่การคว้าตัวเพื่อเสริมทัพให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ แต่เป็นการขยายภาพลักษณ์แบรนด์ของ CFG ให้กว้างไกลขึ้นก็ว่าได้
