ซานโช่ที่โชว์ฟอร์มดีฟอร์มเด่นทั้งในและนอกประเทศนั้น ปัจจุบันนี้เขากลายเป็นที่หมายตาของสโมสรอื่น ๆ ในยุโรปกันอย่างมากมาย

  ซึ่งหนึ่งในนักเตะเก่าของสโมสรอย่าง Sebastian Kehl ผู้มีส่วนร่วมในการทำทีมดอร์ทมุนด์ให้เข้มแข็งนั้นก็ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง SKY ว่า "ทุกคนทำผลงานได้ดี ปกติแล้วพวกเรามีการปั้นผู้เล่นใหม่อยู่เสมอ ซึ่งซานโช่ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมาแล้วนั้นเขาก็เป็นหนึ่งในคนพิเศษเลย" ในเดือนตุลาคมซานโช่ได้เซ็นสัญญากับดอร์ทมุนด์ต่อไปจนถึงปี 2022 แน่นอนว่าทางฝั่งของดอร์ทมุนด์เองนั้นก็อยากจะเก็บเขาเอาไว้ให้อยู่กับสโมสรตราบนานเท่านาน

  ที่ตรงกันข้ามกับซานโช่ผู้ฉายแววอย่างโดดเด่นนั้น ก็เป็นทางฝั่งของคากาวะ ชินจิ ที่ไม่ค่อยมีโอกาสมากนัก ด้วยอาการบาดเจ็บข้อเท้าจึงทำให้เขาได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ม้านั่งสำรองมา 6 นัดทั้งในบุนเดสลิก้าและใน UEFA

  ตอนนี้ตำแหน่งศูนย์หน้าตัวต่ำรอยส์ยังคงกุมบังเหียนไว้อยู่ นอกจากนั้นยังมีมาริโอ้ เกิ๊ดเซ่ มิดฟิลด์ตัวรุกที่มีจุดเด่นในฐานะ ZERO TOP อีกด้วย แม้จนถึงทุกวันนี้จะยังไม่เข้าใจคอนเซปต์ในการจัดทีมของ Favre เท่าไรก็ตาม แต่คงไม่น่าจะมีช่องว่างให้กับคากาวะเข้ามาเติมเต็มในส่วนเกมรุกของทีมก็ว่าได้กระมัง

  การจัดตำแหน่งของ Favre นั้น นอกจากรอยส์ที่เป็นผู้แย่งตำแหน่งตัวจริงของคากาวะอย่างโดยตรงนั้น  ก็ยังมีตัวของซานโช่ แล้วก็ Jacob Bruun Larsen ของทีมชาติเดนมาร์กรุ่น U-21 แล้วก็เป็น Christian Mate Pulisic แห่งทีมชาติอเมริกาเจ้าของวัย 20 ปีที่สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุกและปีกได้ด้วย
  การเข้ามาของคากาวะ ชินจิ เมื่อปี 2010 นั้นก็ทำให้ Mohamed Zidan ผู้มีอายุมากกว่า 8 ปี กลายเป็น "คนในอดีต" ไป บางทีสิ่งที่คากาวะ ชินจิ กำลังสัมผัสอยู่นั้นก็เหมือนกันกับช่วงเวลาดังกล่าวที่ตัวเองถูกผู้เล่นใหม่เบียดไปจนหมดสิ้น

   หากคากาวะเข้ามาทวงตำแหน่งตัวจริงกับสโมสรดอร์ทมุนด์ที่เอาชนะแอตเลติโกมาดริดได้อย่างท่วมท้นนั้นก็จะเป็นหลักฐานชิ้นดีที่เขายังเป็นหนึ่งในตัวรุกที่สำคัญของทีม จากนี้ไปก็ได้แต่คาดหวังว่าคากาวะจะยังสามารถเรียกฟอร์มให้กลับมามั่นใจได้เหมือนเดิม เหมือนดังดั่ง "นักเตะที่เข้าสู่จุดจบ" ที่หลายคนกล่าวไว้แต่ยังเรียกฟอร์มดีกลับมาได้เช่นมาริโอ เกิ๊ตเซ่นั่นเอง

ข่าวโดย เอ็นโด้ โคสุเกะ