Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • 「ถ้าไม่เพาะกายจะขับไม่ได้!」สื่ออังกฤษทึ่งกับเรื่องราวเบื้องหลังรถคันโปรดคู่ใจของพระเจ้าซีโก้ "เซลีก้า" ที่ใช้งานตลอด 40 ปี”!「ตัวเลขไมล์รถ...」

「ถ้าไม่เพาะกายจะขับไม่ได้!」สื่ออังกฤษทึ่งกับเรื่องราวเบื้องหลังรถคันโปรดคู่ใจของพระเจ้าซีโก้ "เซลีก้า" ที่ใช้งานตลอด 40 ปี”!「ตัวเลขไมล์รถ...」

カテゴリ:ワールド

サッカーダイジェストWeb編集部

2021/03/13

อัพเกรดรถจากรางวัลที่ได้รับในวันนั้น!

  พระเจ้าซีโก้มีรถยนต์คันโปรดที่ใช้งานคู่ใจมาตลอด 40 ปี

  เรื่องรถคันโปรดของซีโก้นั้นเป็นที่ทราบกันอย่างแพร่หลายในแวดวงคนชื่นชอบฟุตบอลญี่ปุ่นและบราซิล ทว่าล่าสุดนิตยสาร AUTO ESPORTE ในประเทศบ้านเกิดได้ขอสัมภาษณ์จนทำให้ทราบถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่เจ้าตัวเปิดเผยออกมาด้วย ผ่านทางสื่ออังกฤษ The Sun ที่นำเสนอข่าวออกมาจนสร้างความตื่นตะลึงให้กับทั้งโลก

【Related Photo】ยังสวยเหมือนเดิม! ภาพรถ "เซลิก้าอายุ 40 ปี" ที่ซีโก้เผยแพร่สู่สาธารณะอยู่ทางนี้!

  ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อนในเดือนธันวาคมปี 1981 การแข่งขันศึก Toyota Cup ครั้งที่ 2 ณ สนามกีฬาแห่งชาติคาสึมิกาโอกะแห่งกรุงโตเกียว แชมป์อเมริกาใต้อย่างสโมสร Flamengo ต้องเจอกับ Liverpool แชมป์แห่งยุโรป โดยในศึกประชันดีกรีระดับโลกนั้นทีมแห่งบราซิลคว้าชัยชนะเด็ดขาดด้วยผลการแข่งขัน 3-0 ซึ่งหัวหอกของทีมฟลาเมนโก้อย่างซีโก้ที่ยังอยู่ในสภาพไร้เทียมทานนั้น ตัวของเขาในวัย 28 ปีโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมทำ 1 ประตูและ 2 แอสซิสต์ สุดยอดผลงานของเขาที่มีส่วนร่วมกับทุกประตูนั้นทำให้ได้รับเลือกเป็น MVP ในรายการ

  ถ้าพูดถึงรางวัลพิเศษที่ให้กับทาง MVP ของศึกโตโยต้าคัพแล้ว ในแต่ละปีก็จะเป็นการมอบรถสปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุดในแต่ละยุคแต่ละสมัย โดยในวันนั้นซีโก้ได้รับมอบรถยนต์ Toyoto Celica คันสีแดงสดไป ภาพลักษณ์ของเขาที่ถือกุญแจสีทองอันใหญ่ด้วยใบหน้ายิ้มแจ่มใสภายใต้ท้องฟ้าที่ไร้เมฆหมอกนั้นยังติดอยู่ในความทรงจำ

  ล่าสุดซีโก้ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้เขารักรถยนต์คันนี้มานานแสนนานด้วย

  "มีคนขอให้ขาย Celica หลายต่อหลายครั้งแต่ผมก็ยืนกรานปฏิเสธตลอดเลยครับ เจ้านี่มันไม่ใช่แค่รถยนต์เท่านั้น มันคือถ้วยรางวัลใบใหญ่และเป็นความทรงจำที่แสนวิเศษของผมด้วย เพราะมันคือช่วงวินาทีแสนงดงามที่ฟลาเมนโก้คว้าความเรืองรองแห่งอันดับ 1 ในโลกได้ยังไงล่ะครับ สภาพของรถก็ยังโอเคอยู่เลย ยังขับเคลื่อนได้ไม่มีปัญหาอะไร ผมจะขับมันไปตลอดกาลเลยครับตราบใดที่ยังมีลมหายใจ(หัวเราะ)"

  ทว่าเซลีก้าที่ได้รับในสนามกีฬาแห่งชาตินั้นคือสีแดงสด ทว่าในตอนนี้คือสีเงิน แสดงว่าต้องมีการปรับแต่งเกิดขึ้นแน่ ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังของการปรับเปลี่ยนรูปโฉมที่เป็นความลับนั้นช่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
 
  ในปี 1981 ประเทศบราซิลที่อยู่ในช่วงถดถอยได้ออกมาตรการนำเข้าสินค้าที่แสนเข้มงวด ไม่ต้องพูดถึงรถยนต์คันใหญ่ที่เป็นของหรูหรา มิหนำซ้ำยังเป็นรถยนต์ผลิตในญี่ปุ่นอีกด้วย แน่ล่ะว่าประเทศบราซิลคนที่จะมีรถญี่ปุ่นครอบครองนั้นคงมีเพียงแต่ข้าราชการในสถานทูตญี่ปุ่นหรือเอกอัครราชทูตแต่เพียงเท่านั้น

  แม้จะสามารถขายรถเป็นเงินได้แต่ซีโก้ก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เขาต้องการจะนำเซลีก้าเข้าไปที่บราซิลให้ได้จึงลองทำทุกวิถีทาง

  "นั่นคือโทรฟี่แชมป์ของผม ยังไงก็ไม่อยากจะยอมแพ้เลย ในตอนนั้นผมวิ่งเต้นเต็มที่มีทั้งติดต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในสมัยนั้นรวมไปถึงประธานของธนาคารกลางด้วย แต่มันก็ไปไม่สวยเลย กว่ารถยนต์จะมาถึงผมได้นั้นก็เป็นเดือนเมษายนปี 1983 ไปเสียแล้ว"

  ผ่านไปกว่า 1 ปีครึ่งกว่ารถยนต์จะเดินทางมาถึง ทว่าซีโก้ก็ได้รับเซอร์ไพรส์จากทางโตโยต้าผู้ผลิตรถยนต์คันดังกล่าว ในตอนนั้นเซลีก้าออกรุ่นที่ 3 แล้ว กระนั้นตอนที่คว้าแชมป์ได้และได้รับมองรางวัลในศึกโตโยต้าคัพนั้นคือรถรุ่น "CELICA ST" ทว่ารถที่ซีโก้ได้รับคือรุ่น "CELICA 2.0 GT" ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัพเกรด นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงให้เป็นพวงมาลัยซ้ายแบบรถยุโรปที่ประเทศบราซิลใช้

  จากนั้นใน 4 เดือนต่อมาซีโก้ก็ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสร Udinese ของอิตาลี โดยระหว่างที่เขาไปอยู่ยุโรป 2 ปีนั้นก็ฝากให้พี่ชายแท้ ๆ อย่างเอดู้ช่วยดูแลรักษารถยนต์เป็นอย่างดี

Facebookでコメント