ลูกยิงสุดดุดันที่ทำให้นักรบซามูไรต่างก็สะพรึงกลัวกันถ้วนหน้า เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเกิดเมื่อ 3 ปีก่อนในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ในรอบแบ่งกลุ่มเกมที่ทีมชาติญี่ปุ่นปะทะกับทีมชาติโคลัมเบีย ลูกฟรีคิกดังกล่าวนั้นคือผลงานของ Juan Fernando Quintero เจ้าของตำแหน่งมิดฟิลด์

  ควินเทโร่ตั้งใจเล็งด้านล่างของกำแพงเพื่อยิงฟรีคิกเจาะจนทะลุด้านหลังของทัพญี่ปุ่นจนทำประตูได้อย่างงดงาม โดยหลังจบศึกฟุตบอลโลกเขาก็ย้ายไปค้าแข้งกับทีมใหญ่แห่งอาร์เจนตินาอย่าง River Plate รับหน้าที่เป็นจอมทัพคนสำคัญ คอยขัดเกลาทักษะแข้งซ้ายของตัวเองที่เคยข่มขู่ซามูไรไว้อย่างต่อเนื่อง

  ดูเหมือนว่ามิดฟิลด์อัจฉริยะวัย 27 ปีคนนี้ตั้งใจจะย้ายไปค้าแข้งประเทศจีนในช่วงฤดูหนาวนี้ คาดการณ์ว่าดีลใหญ่กับสโมสรเซินเจิ้น FC ที่มีบุตรชายโยฮัน ไกรฟ์ อย่างจอร์ดี้ ไกรฟ์คุมอยู่นั้นใกล้ปิดดีลในทุกขณะ

  สื่อและแฟน ๆ บางส่วนวิจารณ์อย่างหนักหน่วงใส่ควินเทโร่ว่า "หน้าเงิน" ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนกรานปฏิเสธอย่างหนักแน่น โดยเขาให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุท้องถิ่นประเทศบ้านเกิด CARACOL Radio พร้อมกับระบุว่า "ผมไม่ได้สนใจเรื่องที่คนติกันหรอกนะ"
 

  "ทราบอยู่แล้วว่ามีประเด็นเรื่องเงินทองที่คนพูดถึงกันเยอะ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่พูดถึงเรื่องขีดจำกัดของค่าเหนื่อยที่ประเทศจีนด้วย ประเทศจีนในตอนนี้อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดมาก และที่เหนือสิ่งอื่นใดผมเลือกที่จะสนุกสนานกับฟุตบอลเลยตัดสินใจย้ายทีมครับ"

  จากนั้นก็กล่าวเสริมว่า "ความคิดเห็นของคนที่เอาแต่วิจารณ์คนอื่นนั้นส่วนใหญ่มีแต่อะไรที่ห่างจากความเป็นจริงมาก" แล้วก็พูดถึงเบื้องหลังการย้ายไปประเทศจีนออกมาดังนี้

  "ก่อนที่ผมจะเซ็นสัญญากับเซินเจิ้นนั้นก็ได้รับข้อเสนอดี ๆ จากที่กาตาร์มาด้วย มีสโมสรจากยุโรปชวนมาเหมือนกัน แน่นอนครับว่าผมก็รู้สึกลังเลใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็ตัดสินใจอย่างเยือกเย็นอย่างที่จะไม่ลุ่มหลงต่อเสียงหรือความคิดเห็นของคนภายนอกครับ ขอเน้นว่าไม่ใช่เรื่องของเงินเลย"

  ในบทสัมภาษณ์ยังระบุว่า "ตัดสินใจที่จะเป็นนักเตะมืออาชีพตั้งแต่อายุ 7 ปี ตั้งใจที่จะแขวนสตั๊ดตอนอายุ 33 แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในฐานะคนธรรมดา" ควินเทโร่เปิดเผยโครงการในอนาคตออกมาอย่างหมดเปลือก ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าเขาจะกลายเป็นผู้กอบกู้ช่วยสโมสรเซินเจิ้นที่ตกต่ำไปถึงอันดับ 13 ให้รุ่งโรจน์ขึ้นมาใหม่จนคว้าโควต้าไปแข่งขัน ACL แล้วปะทะกับทีมจากฝั่งญี่ปุ่นได้หรือไม่

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest