"สร้างประวัติศาสตร์ดำมืดขึ้นมาแล้ว..."
เจอร์เก้น คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ด้วยสภาพคอตกหลังจบเกมเมื่อนำทีมลิเวอร์พูลพ่ายแพ้ย่อยยับจนเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างสิ้นสภาพไม่สมกับเป็นแชมป์เก่า
วันที่ 4 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 4 ลิเวอร์พูลที่บุกไปเยือนแอสตันวิลล่าพ่ายอย่างสุดเหลือเชื่อที่ 2-7
หงส์แดงที่เสียไปถึง 4 ลูกในครึ่งแรกจากผลงานยิงแฮตทริกของโอลี วัตกินส์นั้น ในครึ่งหลังก็ยังเล่นได้อย่างต่ำกว่ามาตรฐาน การทำเกมรุกคมกริบและความขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องกันเป็นทีมนั้นหายไป ทีมเสียเพิ่มอีก 3 ประตู
สำหรับสโมสรลิเวอร์พูลนั้นค่ำคืนที่ผ่านมาถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ระดับประวัติศาสตร์นัดหนึ่ง โดยครั้งสุดท้ายที่ทีมแพ้ถึง 7 ประตูในการแข่งขันอย่างเป็นทางการนั้นต้องย้อนไปในเดือนเมษายน 1963 ที่เจอกับสเปอร์เลยทีเดียว
「นี่ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่อยากสร้างเลย」คล็อปป์โอดครวญหลังทีมพ่าย 7 ลูกในรอบ 57 ปี! 「ถ้าประตูนั้นยิงได้ล่ะก็...」
カテゴリ：メガクラブ
2020/10/05
เมื่อ 44 ปีก่อนก็แพ้ต่อแอสตันวิลล่าอย่างย่อยยับ แต่ในฤดูกาลนั้น...
ใบหน้าอันเศร้าหมองของคล็อปป์ที่เจอทีมพ่ายอย่างถล่มทลายต่อหน้าต่อตา หลังจบการแข่งขันเจ้าตัวออกมาทบทวนข้อผิดพลาด
(C) Getty Images
ซึ่งยอดกุนซืออย่างคล็อปป์ก็ไม่ปิดบังความช็อคของตัวเอง หลังการแข่งขันจบลงเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กับทาง BBC พร้อมระบุว่า "ก่อนอื่นต้องชมความยอดเยี่ยมของวิลล่า" เป็นการเกริ่นนำเช่นนั้นแล้วกล่าวโอดครวญออกมาดังนี้
"วันนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทองได้เลย ในเมื่อตัวเองพ่ายแพ้ถึง 7 ลูกแบบนี้ ครั้นจะพูดว่า "ถ้าประตูนั้นยิงได้ล่ะก็คงเป็น 7-7 แน่" อะไรแบบนั้นก็ไม่ได้ด้วย พวกเรามีข้อผิดพลาดเยอะมากเกินไป มีข้อผิดพลาดใหญ่อย่างชัดแจ้ง
เสียพื้นที่ในเขตที่ไม่ควรเสีย เกมรับก็ไม่มีความละเอียด พอเสีย 0-1 แล้วก็ผิดแผน คือมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวนะ ต่อให้เสียไป 0-1 แต่ถ้าทำตามแผนที่วางเอาไว้มันก็เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นก็สร้างโอกาสได้อีกด้วย เพียงแต่ว่าการเล่นเกมรับไม่ละเอียดเลย ทุกครั้งที่เสียบอลไปก็จะโดนสวนกลับอย่างหนักหน่วงทันที"
นอกจากนั้นยังระบุเพิ่มเติมว่า "3 ลูกที่เสียไปก็เกิดจากการแฉลบด้วย ก็ถือว่าดวงซวย แต่ในอีกแง่หนึ่งก็มาจากการบล็อคที่ไม่มีความละเอียดพอเช่นกัน" พอคล็อปป์กล่าวจบแล้วเจ้าตัวก็พูดประชดประชันออกมาทิ้งทวนว่า
"นอกเหนือจากพวกเราแล้ววันนี้ไม่มีใครให้ติทั้งสิ้น ใครจะอยากแพ้ 2-7 ล่ะ? หลายปีก่อนพวกเราพูดกันว่า "จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา" นี่เองก็เป็นประวัติศาสตร์ แต่แน่นอนว่ามันก็เป็นประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยน ไม่ได้อยากจะสร้างขึ้นมาเลยจริงๆ"
อนึ่ง ในเดือนธันวาคม 1976 ลิเวอร์พูลก็เคยพ่ายต่อแอสตันวิลล่า 1-5 มาก่อน แต่ในฤดูกาล 1976-1977 นั้นก็ได้ดับเบิ้ลแชมป์คือแชมป์ลีกและแชมป์เปี้ยนส์คัพ(ปัจจุบันคือแชมป์เปี้ยนส์ลีก)อีกด้วย
ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าหงส์แดงจะคืนชีพได้หรือไม่ ทีมจะสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้เหมือนเดิมหรือไม่ โดยนัดหน้าที่น่าสนใจนั้นคือเพื่อนบ้านเอเวอร์ตันที่ขณะนี้ครองตำแหน่งจ่าฝูงด้วยชัยชนะ 4 นัดติดนับตั้งแต่เปิดสนามอย่างแข็งแกร่ง
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
"วันนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทองได้เลย ในเมื่อตัวเองพ่ายแพ้ถึง 7 ลูกแบบนี้ ครั้นจะพูดว่า "ถ้าประตูนั้นยิงได้ล่ะก็คงเป็น 7-7 แน่" อะไรแบบนั้นก็ไม่ได้ด้วย พวกเรามีข้อผิดพลาดเยอะมากเกินไป มีข้อผิดพลาดใหญ่อย่างชัดแจ้ง
เสียพื้นที่ในเขตที่ไม่ควรเสีย เกมรับก็ไม่มีความละเอียด พอเสีย 0-1 แล้วก็ผิดแผน คือมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวนะ ต่อให้เสียไป 0-1 แต่ถ้าทำตามแผนที่วางเอาไว้มันก็เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นก็สร้างโอกาสได้อีกด้วย เพียงแต่ว่าการเล่นเกมรับไม่ละเอียดเลย ทุกครั้งที่เสียบอลไปก็จะโดนสวนกลับอย่างหนักหน่วงทันที"
นอกจากนั้นยังระบุเพิ่มเติมว่า "3 ลูกที่เสียไปก็เกิดจากการแฉลบด้วย ก็ถือว่าดวงซวย แต่ในอีกแง่หนึ่งก็มาจากการบล็อคที่ไม่มีความละเอียดพอเช่นกัน" พอคล็อปป์กล่าวจบแล้วเจ้าตัวก็พูดประชดประชันออกมาทิ้งทวนว่า
"นอกเหนือจากพวกเราแล้ววันนี้ไม่มีใครให้ติทั้งสิ้น ใครจะอยากแพ้ 2-7 ล่ะ? หลายปีก่อนพวกเราพูดกันว่า "จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา" นี่เองก็เป็นประวัติศาสตร์ แต่แน่นอนว่ามันก็เป็นประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยน ไม่ได้อยากจะสร้างขึ้นมาเลยจริงๆ"
อนึ่ง ในเดือนธันวาคม 1976 ลิเวอร์พูลก็เคยพ่ายต่อแอสตันวิลล่า 1-5 มาก่อน แต่ในฤดูกาล 1976-1977 นั้นก็ได้ดับเบิ้ลแชมป์คือแชมป์ลีกและแชมป์เปี้ยนส์คัพ(ปัจจุบันคือแชมป์เปี้ยนส์ลีก)อีกด้วย
ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าหงส์แดงจะคืนชีพได้หรือไม่ ทีมจะสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้เหมือนเดิมหรือไม่ โดยนัดหน้าที่น่าสนใจนั้นคือเพื่อนบ้านเอเวอร์ตันที่ขณะนี้ครองตำแหน่งจ่าฝูงด้วยชัยชนะ 4 นัดติดนับตั้งแต่เปิดสนามอย่างแข็งแกร่ง
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
