วันที่ 29 ธันวาคม สโมสรโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ประกาศคว้าตัว Erling  ศูนย์หน้าทีมชาตินอร์เวย์จาก Red Bull Salzburg อย่างเป็นทางการ โดยเป็นการเซ็นสัญญา 4 ปีครึ่งยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 จากการรายงานของเว็บข่าวสายตลาดซื้อขายนักเตะ transfermarkt ระบุว่า ค่าตัวของฮาแลนด์อยู่ที่ 20 ล้านยูโร(ประมาณ 670 ล้านบาท)

  ซัลซ์บวร์กคว้าตัวศูนย์หน้าร่างใหญ่วัย 19 ปีคนนี้มาจากสโมสร Molde แห่งนอร์เวย์ประเทศบ้านเกิดของเขามาอยู่กับจ้าวแห่งออสเตรียในเดือนมกราคม 2019 โดยในฤดูกาลแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่กับทีมนั้นเจ้าตัวลงสนาม 5 นัดยิงได้ 1 ประตู หลังจากนั้นเขาก็ติดทีมชาตินอร์เวย์ที่ลงสู้ศึก U-20 World Cup ซึ่งในเกมกับฮอนดูรัสเขาก็สามารถสร้างอิมแพ็คได้อย่างหนักหน่วงด้วยการยิงแฮตทริกไปถึง 3 ครั้ง(ยิงคนเดียว 9 ประตู) จากการแข่งขันที่ทีมชนะ 12-0 จนทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาจากทั้งโลกในชั่วพริบตา

  จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น ตอนนี้เขาลงสนามไปแล้ว 22 นัดแต่ทำได้ถึง 28 ประตูและ 7 แอสซิสต์อย่างระเบิดระเบ้อ จนในการแข่งขันเกม Champions League รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกสำหรับทั้งตัวของเขาเองและของสโมสรนั้น ซัลซ์บวร์กต้องเจอกับ Genk ในวันที่ 17 กันยายนก็ถล่มได้ 6-2 เขากลายเป็นนักเตะอายุหลัก 10 คนต่อมาจากเวย์น รูนีย์ในปี 2004 ที่สามารถยิงแฮตทริกได้สำเร็จ มิหนำซ้ำยังสามารถยิงแฮตทริกได้ในครึ่งแรกของการแข่งขันอีกด้วย

  ด้วยผลงานของเขานั้นจึงทำให้สโมสรมากมายจากทั่วยุโรปจ้องมองในชั่วพริบตา เขากลายเป็นเด็กหนุ่มเนื้อหอมที่ตกเป็นเป้าสายตาจากทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์กุนซือสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่เคยฝึกสอนฮาแลนด์มาก่อนตั้งแต่สมัยอยู่กับโมลด์ ทว่าท้ายที่สุดแล้วฮาแลนด์กลับเลือกดอร์ทมุนด์แทน

  ศูนย์หน้าอสูรกายคนนี้เหตุใดจึงไม่ตัดสินใจเลือกที่จะมาค้าแข้งที่พรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เป็นลีกสูงสุดของโลกเหมือนดั่งเพื่อนร่วมทีมอย่างมินามิโนะ ทาคุมิที่ย้ายมาค้าแข้งที่ลิเวอร์กันพูลแน่
 

  จากการรายงานของสื่ออังกฤษอย่าง Daily Mail ระบุว่า ทางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดปฏิเสธที่จะจ่ายค่าตัวส่วนหนึ่งที่ต้องชำระให้กับพ่อของฮาแลนด์อย่าง Alf-Inge Haland และผู้แทนอย่างมีโน่ ไรโอล่าจึงทำให้ทางดอร์ทมุนด์ที่ไม่ปฏิเสธอะไรทั้งสิ้นถือไพ่ได้เปรียบในการเจรจาคว้าตัวนั่นเอง

  อนึ่งพ่อของฮาแลนด์นั้นเคยเล่นเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์อยู่กับทั้งสโมสรลีดส์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่เป็นคู่ปรับของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาก่อนด้วย

  ไม่ว่าอย่างไรก็ดีฮาแลนด์ก็กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของสโมสรยักษ์ใหญ่ด้วยวัยเพียงหลักสิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสโมสรดอร์ทมุนด์ที่ตอนนี้ขาดพลังรบในแนวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าฮาแลนด์จะสามารถคว้าตำแหน่งตัวจริงมาได้อย่างรวดเร็วก็เป็นได้เลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest