ด้วยพลังเงินจากน้ำมันจึงทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้ยกระดับตัวเองเป็นหนึ่งในทีมชั้นแนวหน้าของพรีเมียร์ลีกได้ โดยล่าสุดคำสารภาพจากบอร์ดบริหารที่ทำให้สโมสรเฟื่องฟูได้ขนาดนี้นั้นได้เปิดเผยเรื่องราวที่แสนน่าทึ่งในสมัยหนึ่งออกมาจนกลายเป็นประเด็นคึกโครม
นับว่าเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการเลยทีเดียวเมื่อสื่อกีฬาอเมริกาอย่าง The Athletic ได้สัมภาษณ์อดีต CEO ของแมนเชสเตอร์ซิตี้อย่าง Garry Cook โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยเรื่องราวในฤดูร้อนปี 2008 หรือเมื่อ 11 ปีก่อนออกมา
ในสมัยนั้นเป็นช่วงก่อนที่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอย่างทักษิณ ชินวัตรกำลังจะขายทีมให้กับกลุ่มนักลงทุนของ UAE อย่าง Abu Dhabi United Group(เจ้าของในปัจจุบัน)
คุ้กที่เปรียบเสมือนเป็นมือขวาของคุณทักษิณนั้น เขาเป็นผู้มีสิทธิ์เด็ดขาดในการตัดสินใจเรื่องการคว้าตัวนักเตะให้เข้ามาร่วมทีม จึงทำให้เตรียมคว้านักเตะชั้นเลิศมาเพื่อให้กุนซืออย่างมาร์ค ฮิวจ์พร้อมใช้งาน
จนกระทั่งในการประชุมวันหนึ่ง ระหว่างที่คุณทักษิณกำลังวีดีโอคอลล์กับคุ้กอยู่นั้นก็ได้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ความผิดพลาดในวันนั้นยังทำให้อดีต CEO จำได้อย่างชัดเจนจนถึงทุกวันนี้
"ในตอนนั้นทักษิณยังเป็นผู้รับผิดชอบของทีมอยู่ ในตอนนั้นมีผม มี COO อย่างพอล อัลดริดจ์ที่กำลังวีดีโอคอลล์กันอย่างร้อนแรง คือทางพอลเคยอยู่ที่เวสต์แฮมมาก่อน เขาสามารถเดินเรื่องเพื่อคว้าตัวซาเวียร์ มาสเชราโน่และคาร์ลอส เตเวซมาร่วมทมได้ แต่ทักษิณกลับไม่ยอมรับ
เพราะฉะนั้นพอลจึงบอกว่า "นี่ประธานครับ ช่วยบอกทีเถอะว่าพวกเราควรทำอะไรดี! ตอนนี้อลหม่านไปหมดแล้วนะ" ทางทักษิณที่นอนนวดบนโซฟาอยู่นั้นก็ได้ร้องว่า "เยส! เยส! เยส! เมสซี่ เมสซี่ เมสซี่(messy ที่หมายถึงสถานการณ์ยุ่งเหยิง)" ตอนนั้นเลยทำให้เข้าใจผิดว่า "โอเค ต้องการตัวเมสซี่สินะ" ออกมา"
แมนซิตี้เกือบคว้าตัวเมสซี่ได้!? CEO เมื่อ 11 ปีก่อน เปิดเผยเรื่องราวสุดน่าทึ่งออกมา! 「เสียงตะโกนของทักษิณ...」
カテゴリ:メガクラブ
2019/12/28
เมก้าดีลที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดที่แสนเหลือเชื่อ

หัวหอกผู้นั่งแท่นครองบัลลังก์ที่บาร์ซ่ามาอย่างยาวนาน ก่อนหน้านี้ชายผู้วิวัฒนาการวงการฟุตบอลนั้นเคยตกเป็นเป้าหมายคว้าตัวของซิตี้มาก่อน
(C) Getty Images
พอได้ยินวาจาของประธานแบบนั้นจึงทำให้คุ้กเตรียมเงิน 70 ล้านปอนด์เอาไว้ ซึ่งอัลดริดจ์ก็ระบุว่า "เดี๋ยวก่อนนะ มันอลหม่านหมดแล้ว รู้หรือเปล่าน่ะว่าพวกเรากำลังจะทำอะไรอยู่" จากนั้นก็เพิ่มความจริงจังในการเตรียมการยื่นข้อเสนอเพื่อทุ่มเงินคว้าตัวเมสซี่มาพรีเมียร์ลีกให้ได้
ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ทราบกันว่าเป็นเรื่องของความเข้าใจผิด ในวันต่อมาทางซิตี้ก็ถอนข้อเสนอกลับ แต่ในตอนนั้นคุ้กได้มีการประชุมกับผู้ดำรงตำแหน่งประธานของพรีเมียร์ลีกอย่าง เดฟ ริชาร์ด ด้วย
"เดฟบอกว่า "แกร์รี่ นี่พวกคุณจะคว้าตัวของลิโอเนล เมสซี่มางั้นเหรอ? เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าน่ะ? ทำไมถึงจะทำงั้น?" แต่ถึงจะว่างั้นก็เถอะ แต่การเสนอไปรอบแรกนี่ตั้งใจจริงมากเลยนะ มั่นใจว่าบาร์ซ่าก็พิจารณาอยู่ด้วย"
แม้เหตุการณ์นี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่หากสมมติว่ามันเกิดจริงล่ะก็ อยากจะรู้เหลือเกินว่าซิตี้ที่สามารถตัวเมสซี่ได้นั้นทีมจะกลายเป็นแบบไหนกันแน่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ทราบกันว่าเป็นเรื่องของความเข้าใจผิด ในวันต่อมาทางซิตี้ก็ถอนข้อเสนอกลับ แต่ในตอนนั้นคุ้กได้มีการประชุมกับผู้ดำรงตำแหน่งประธานของพรีเมียร์ลีกอย่าง เดฟ ริชาร์ด ด้วย
"เดฟบอกว่า "แกร์รี่ นี่พวกคุณจะคว้าตัวของลิโอเนล เมสซี่มางั้นเหรอ? เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าน่ะ? ทำไมถึงจะทำงั้น?" แต่ถึงจะว่างั้นก็เถอะ แต่การเสนอไปรอบแรกนี่ตั้งใจจริงมากเลยนะ มั่นใจว่าบาร์ซ่าก็พิจารณาอยู่ด้วย"
แม้เหตุการณ์นี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงก็ตาม แต่หากสมมติว่ามันเกิดจริงล่ะก็ อยากจะรู้เหลือเกินว่าซิตี้ที่สามารถตัวเมสซี่ได้นั้นทีมจะกลายเป็นแบบไหนกันแน่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest