Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • 「หวังว่าพรีเมียร์ลีกยังเป็นพรีเมียร์ลีกต่อไป...」มูรินโญ่เรียกร้องยกเลิกโทษแบนของซองฮึงมินที่ถูกใบแดงจาก VAR!

「หวังว่าพรีเมียร์ลีกยังเป็นพรีเมียร์ลีกต่อไป...」มูรินโญ่เรียกร้องยกเลิกโทษแบนของซองฮึงมินที่ถูกใบแดงจาก VAR!

カテゴリ:メガクラブ

サッカーダイジェストWeb編集部

2019/12/24

แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าใบแดงของซองฮึงมินนั้น...

มูรินโญ่ออกโรงปกป้องซองฮึงมินที่เดินคอตกออกจากสนาม คำพูดของเขามันก็มีเหตุมีผลอยู่นะ...

(C) Getty Images

画像を見る

  ศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีใต้แห่งท็อตแนมฮ็อตสเปอร์ซองฮึงมิน ล่าสุดในการแข่งขันวันที่ 22 ธันวาคมเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 18 กับสโมสรเชลซี ในนาที 60 เขาถูกอันโตนิโอ รูดิเกอร์กระแทกจนล้มลง แต่ตอนที่ล้มนั้นกลับถีบสีข้างของฝั่งตรงข้ามกลับจึงทำให้ VAR ตัดสินว่าเป็นการเล่นนอกเกมทำให้เขาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

  การถูกใบแดงนั้นจะทำให้ซองฮึงมินติดโทษแบน 3 นัด ซึ่งกุนซือของสเปอร์อย่างโจเซ่ มูรินโญ่นั้นไม่ยินยอมแน่ โดยจากการรายงานของทาง BBC ยอดกุนซือชาวโปรตุเกสได้ระบุว่า "ภาวนาว่าซองจะไม่โดนลงโทษถึง 5 ครั้ง" 

  "ครั้งแรกคือการถูกทำฟาวล์โดยรูดิเกอร์ ครั้งที่สองก็คือถูกใบแดง ครั้งที่ 3 คือการไม่ได้ลงเล่นในเกมกับไบรท์ตัน ครั้งที่ 4 ก็คือนอร์วิช แล้วครั้งที่ 5 คือการไม่ได้ลงเล่นในเกมกับเซาท์แฮมป์ตัน ผมหวังว่าการลงโทษเขาแค่ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว การต้องโดนลงโทษถึงสามสี่ห้าครั้งมันไม่เหมาะสมกับเขาเลย"

  หลังจากที่ซองฮึงมินถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไปรูดิเกอร์ก็ตกเป็นเป้าของการเหยียดผิวจึงทำให้ประเด็นดังกล่าวมันบานปลายขึ้นไปอีก ซึ่งมูรินโญ่ก็ระบุว่า "เรื่องการเหยียดผิวนั้นเป็นคนละประเด็น" เขาเน้นย้ำว่าการเรียกร้องเรื่องการโดนไล่ออกจากสนามนั้นคนละกรณีกับการเหยียดสีผิว

  มูรินโญ่ระบุว่า "ผมก็ได้แค่หวังว่าพรีเมียร์ลีกจะยังคงเป็นพรีเมียร์ลีกต่อไป สิ่งที่ควรโฟกัสไม่ใช่เรื่องของซองแต่เป็นเรื่องของรูดิเกอร์มากกว่า" 

  "พรีเมียร์ลีกที่ผมรักนั้นไม่สามารถยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับรูดิเกอร์ได้ด้วยประการทั้งปวงแน่ พวกเราต้องยืนหยัดและสู้ต่อไป นี่แหละคือพรีเมียร์ลีก"

  ก่อนหน้านี้ซองฮึงมินถูกใบแดงในเกมกับเอเวอร์ตันเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในตอนนั้นเขาก็ทำให้อังเดร โกเมสได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็โดนยกเลิกในภายหลัง

  ทว่าเวลาผ่านไปไม่ถึง 2 เดือนซองก็โดนใบแดงอีกครั้ง ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าสมาพันธ์ฟุตบอลอังกฤษจะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

Facebookでコメント