เดือนมิถุนายน 2020 การแข่งขัน EURO2020 ที่ 12 เมืองทั่วทั้งยุโรปจะถูกจัดขึ้น ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิด "กรุ๊ปออฟเดธ" ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่ประวัติศาสตร์เคยมีมา

  วันที่ 30 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองหลวงบูคาเรสต์ ณ ประเทศโรมาเนียได้มีการจัดพิธีจับกลุ่มรอบสุดท้ายของ EURO2020 ออกมาโดยแบ่งเป็นทั้งหมด 6 กลุ่ม

  แน่นอนว่าเป็นการแข่งขันของประเทศที่มีอิทธิพลในยุโรปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้กรุ๊ปไหนที่งานง่ายเป็นพิเศษ ทว่ากลุ่มที่โหดที่สุดนั้นคงหนีไม่พ้นกลุ่ม F ที่มีทีมใหญ่ ๆ อย่างทั้งแชมป์เก่าโปรตุเกส แชมป์โลกปีล่าสุดอย่างฝรั่งเศสรวมไปถึงเยอรมันที่เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายใน EURO2016 อยู่ในกลุ่มเดียวกันด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ก็ตามตัวอักษรที่ระบุเอาไว้เลยว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายที่แท้จริง

  ผลลัพธ์การจับคู่ที่มีออกมานั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเลยว่าแต่ละประเทศจะตื่นตะลึงกันขนาดไหน

  เริ่มต้นจากหนังสือพิมพ์เยอรมันอย่าง Bild ได้ลงข่าวว่า "บ้าบอไปแล้วที่จับเอาแชมป์เก่ากับแชมป์โลกมาเจอกัน" ส่วนสื่อฝรั่งเศส L'Equipe ก็ลงข่าวว่า "นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ไม่สามารถผ่อนใจได้ตั้งแต่แรกเลย" ท้ายที่สุดคือหนังสือพิมพ์โปรตุเกส Record ที่ลงข่าวว่า "ทีมที่ผ่านรอบเพลย์อ๊อฟมานั้นก็ต้องระมัดระวังไม่เบาเลย"

  เหล่ากุนซือที่เข้าร่วมพิธีการจับรอบแบ่งกลุ่มนั้นเองก็ต้องเริ่มเตรียมตัวรับมือกับศึกที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกครึ่งปีข้างหน้า โดยกุนซือทีมชาติเยอรมันอย่างโยอาคิม เลิฟ ก็ระบุว่า "นี่เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ แต่นี่แหละก็คือเสน่ห์ของฟุตบอล" เป็นการเกริ่นเช่นนั้นแล้วก็เผยความในใจออกมาภายหลัง

  "คงต้องไปให้มากกว่านี้เพื่อไปให้ถึงที่สุดของขีดจำกัด สำหรับทีมของพวกเราที่กำลังอยู่ในจุดผลัดวัยนั้นนี่คงเป็นการท้าทายที่แสนยิ่งใหญ่อย่างแน่นอนเลย"

  ในฝั่งของทางกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ดิดิเยร์ เดสช็องส์ก็ระบุว่า "ต้องรีบเตรียมตัวเดี๋ยวนี้" เป็นการเกริ่นเช่นนั้นแล้วก็ระบุว่า

  "นี่คงเป็นการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่โหดที่สุดในโลกแน่ พวกเราคงต้องยอมรับตามสภาพของมัน กุนซือของทีมอื่นก็คงคิดเหมือนกัน นี่คงเป็นการแข่งขันระดับซับซ้อนที่ต้องคัดเอาคุณภาพระดับโลกออกมา มีออกได้สองทางไม่ยอดเยี่ยมที่สุดก็เลวร้ายที่สุดแน่นอน"

  ส่วนกุนซือทีมชาติโปรตุเกสอย่างแฟร์นันโด ซานโตสที่ยิ้มแหย ๆ ตอนเห็นผลจับคู่ออกมานั้น "จริงอยู่ที่เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมาก" เป็นการเกริ่นนำเช่นนั้นแล้วก็แสดงความมั่นใจในฐานะแชมป์เก่าออกมาว่า

  "นี่คงเป็นการแข่งขันที่มีคุณค่าและกลายเป็นประวัติศาสตร์ของทุกทีมในกลุ่มรวมถึงทีมที่ผ่านรอบเพลย์อ๊อฟมาด้วย ถึงจะมีเพียงแค่ 2 ทีมที่สามารถรอดพ้นไปได้ก็ตาม แต่โปรตุเกสก็เป็นตัวเก็งหนึ่งในนั้น โอกาสมีอยู่อย่างมากเพียงพอ"

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าทีมใดกันแน่ที่จะเอาตัวรอดผ่านกรุ๊ปออฟเดธไปได้ แต่สิ่งที่มั่นใจได้เลยว่าการแข่งขันนัดนี้ต้องกลายเป็นการแข่งขันที่ดุดันน่าประทับใจไม่น้อยอย่างแน่นอนเลย