เป๊ป กวาดิโอลาร์พูดถึงการกำกับทีมที่กลายเป็นประเด็นคึกโครมระดับโลก

  เหตุการณ์สุดเลื่องลือนั้นเริ่มต้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน การแข่งขัน UEFA Champions League รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 4 สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ต้องบุกไปเยือน Atalanta ในช่วงท้ายเกมที่ผู้รักษาประตู Claudio Bravo โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

  นาที 81 หลังเสมอกัน 1-1 นักเตะอตาลันต้าอย่าง Alejandro Gómez ทำการจ่ายทะลุให้กับ Josip Iličić ที่อยู่คนเดียวแล้ววิ่งทะลุแนวหลังไปได้ ในตอนนั้นเองนายทวารบราโว่ที่รีบออกมาจากเขตโทษก็ทำการพุ่งกวาดใส่ศูนย์หน้าชาวสโลวีเนียจนล้มลง

  บราโว่ที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปนั้น เนื่องจากทีมใช้โควต้าเปลี่ยนผู้รักษาประตูอย่างเอแดร์สันผู้รักษาประตูมือหนึ่งออกไปตั้งแต่จบครึ่งแรกแล้ว จึงทำให้ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนเหลืออยู่ที่ม้านั่งสำรองเลยทั้งสิ้น ซึ่งบุคคลที่เป๊ปตัดสินใจส่งลงให้ไปเป็นผู้รักษาประตูนั้นคือแบ็คขวาธรรมชาติอย่างไคล์ วอล์คเกอร์นั่นเอง

  วอล์คเกอร์ที่สวมเสื้อและถุงมือของผู้รักษาประตูเข้าไปสนามแทนที่ของริยาด มาห์เรซที่ถูกเปลี่ยนตัวออก แม้ทีมจะอยู่ในจุดที่เสียหายหนักจากการที่บราโว่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามและทีมเหลือผู้เล่นเพียงสิบคนก็ตาม ทว่าวอล์คเกอร์ที่ลงสนามตอนแรกด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ นั้นเขากลับโชว์เซฟบอลคม ๆ จากเท้าข้างซ้ายของ Ruslan Malinovskiy ได้ ช่วยเหลือให้ทีมรอดพ้นจากวิกฤติได้

  วอล์คเกอร์แสดงผลงานเป็นตัวแทนได้อย่างยอดเยี่ยมและรักษาสกอร์ให้จบลงที่ 1-1 อย่างน้อยที่สุดทีมเรือใบสีฟ้าที่ปราศจากผู้รักษาประตูและมีผู้เล่นน้อยกว่าก็ยังเก็บ 1 คะแนนกลับบ้านไปได้

  ว่าแต่ว่าเหตุใดยอดกุนซือชาวสเปนจึงได้ตัดสินใจส่งวอล์คเกอร์ลงสนามไปเป็นผู้รักษาประตูด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันดังนี้

  "จนถึงพวกเราในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องเลย ตอนที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริง ๆ โค้ชผู้รักษาประตู Xabier Mancisidor ก็บอกมาว่า วอล์คเกอร์น่ะมีความกล้า แล้วก็มีความเร็วด้วย เพราะฉะนั้นผมก็เลย "เอางั้นด้วย" เลยล่ะ"
  
  แต่เป๊ปก็ยังระบุว่า "ตอนที่วอล์คเกอร์ต้องเฝ้าเสานั้นโชคดีจริง ๆ ที่มีลูกที่ต้องเซฟเพียงแค่หนึ่งครั้ง" รู้สึกขอบคุณความทุ่มเทของกองหลังทีมชาติอังกฤษที่สามารถทำหน้าที่ในฐานะผู้รักษาประตูได้แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งของตัวเองเลย

  "ก็ต้องยินดีกับความกล้าหาญและสปิริตของเขาที่จะช่วยทีมได้ด้วยการเล่นตำแหน่งนี้"

  การสับเปลี่ยนผู้เล่นที่สร้างความฮือฮาทั่วทั้งโลกนั้น ที่มาที่ไปคือคำแนะนำของโค้ชผู้รักษาประตูนั่นเอง

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest