เสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีการพุ่งเสียบของศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ซองฮึงมิน นั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะสงบในเร็ววันแต่อย่างไร

  จุดเริ่มต้นคือวันที่ 3 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่นในศึกพรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 ที่ซองฮึงมินเข้าไปพุ่งเสียบใส่อังเดร โกเมสในเกมที่สเปอร์เจอกับเอเวอร์ตัน

  อังเดร โกเมสกำลังลากพาบอลไปอยู่แล้วซองฮึงมินก็พุ่งเข้าเสียบจากด้านหลัง การพุ่งปะทะตรงนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทว่าพออังเดร โกเมสล้มลงไปแล้วก็ไปปะทะกับโอริเยร์เข้าจนทำให้ข้อเท้าข้างขวาของมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสนั้นพลิกงอไปอีกข้าง ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้คู่กรณีทั้งสองคนนั้นยกมือขึ้นกุมศีรษะพร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างสุดช็อคออกมาจากอาการบาดเจ็บดังกล่าวที่ข้อเท้าข้างขวาหัก

  ซองฮึงมินที่เป็นจุดเริ่มต้นในอาการบาดเจ็บครั้งนี้จากการที่เขาพุ่งเข้าไปปะทะนั้น พอเจ้าตัวเห็นภาพดังกล่าวเข้าก็ร้องไห้ออกมา หลังจากนั้นก็โดนกรรมการในนัดนั้นอย่าง Martin Atkinson เปลี่ยนคำตัดสินจากใบเหลืองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

  หลังการแข่งขันจบลง เดลี อาลีเพื่อนร่วมทีมไก่เดือยทองให้สัมภาษณ์ว่า "ซองฮึงมินก้มหน้าร้องไห้อย่างเดียวในห้องแต่งตัว เขาเงยหน้าไม่ขึ้นเลย" จนทำให้กัปตันทีมเอเวอร์ตันอย่าง ซีแมน โคลแมนเข้ามาปลอบถึงห้อง เสียงส่วนใหญ่ก็แสดงความปกป้องเขาว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

  ทว่าท่ามกลางเรื่องราวที่มีมานั้น ก็มีคนตั้งแง่สงสัยเรื่องการร้องไห้ของซองฮึงมินด้วย เขาไม่ใช่ใครอื่นแต่คือ Stan Collymore นักเตะทีมชาติอังกฤษนั่นเอง

  เขาเคยค้าแข้งอยู่กับทั้งแอสตันวิลล่าและลิเวอร์พูลในช่วงยุค 90 ซึ่งเจ้าตัวได้เขียนบทความลงในคอลัมน์ของตัวเองกับทาง Mirror "การกระทำของซองมันโอเวอร์รีแอคชั่นมากเกินไป เป็นความประพฤติที่ไม่น่าพึงพอใจเลย" 

  "นักกีฬาฟุตบอลนั้นมีภูมิต้านทานต่ออาการบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ผมรู้สึกไม่พิศมัยเลยกับปฏิกิริยาของทั้งซองกับโอริเยร์ที่แสดงออกแบบนี้ ผมไม่ได้จะสื่อว่าไม่ควรแสดงออกถึงความกังวลหรือไม่ควรรู้สึกรู้สาอะไรกับอาการบาดเจ็บหรอกนะ การแสดงความเห็นอกเห็นใจในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ปฏิกิริยาของซองนั้นเหมือนกับ "กังวลเรื่องฟุตบอลของตัวเองมากกว่าอังเดร โกเมส" เสียอีกในมุมมองของผมนะ"

  จากนั้นคอลลี่มอร์ก็เปรียบเทียบการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสสังคม

  "ผมเข้าใจว่าซองไม่ได้ตั้งใจจะทำให้อังเดรบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่ในหัวของเขาคงกลัวกระแสต่อต้านของผู้ตัดสิน สายตาของแฟน ๆ รวมถึงนักเตะฝั่งตรงข้าม ในช่วงหลังมานี้นักเตะฟุตบอลหลายคนพยายามปกป้องตัวเองจากการตัดสินทางสังคมที่เรียกว่า "ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่" แต่เรื่องแบบนี้มันควรหยุดได้แล้ว ซองเองก็ควรจะหยุดด้วย"

  นอกจากอังเดร โกเมส จะต้องพักรักษาตัวยาวแล้ว ซองฮึงมินเองก็มีสภาพจิตใจย่ำแย่ อยู่ในภาวะอลหม่านอย่างเป็นที่น่ากังวล เพราะฉะนั้นความคิดเห็นของคอลลี่มอร์นั้นมันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ...

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest