ถูกสับหนักเรื่อง "แนวการคุมทีมล้าสมัย"
เสิน เหมิงหยู่ ที่ถูกปลดออกจากทีมก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม บางทีหากมีเสาหลักในแดนกลางอย่างเธอผู้เป็นกัปตันทีมอยู่ล่ะก็มันอาจจะส่งผลกับผลงานของทีมชาติในทัวร์นาเมนต์ U-19 นี้ก็เป็นได้
(C)Getty images
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ศึกชิงแชมป์เอเชียรุ่น U-19 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยนั้น ทีมชาติญี่ปุ่นเจอทีมชาติจีนในการแข่งขันนัดสุดท้ายแล้วเก็บชัยชนะได้ด้วยผลการแข่งขัน 2-1 ที่แสนสำคัญ ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นคว้าชัย 3 นัดต่อเนื่องทะลุเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ เป็นการการันตีโควต้าศึกฟุตบอลโลกรุ่น U-20 ในปีหน้าที่ไนจีเรียได้เรียบร้อย
ทว่าสำหรับทีมชาติจีนนั้นคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์แน่
ความน่าอับอายของทีมชาติจีนที่พลาดโอกาสเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ตลอดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกหญิงรุ่น U-20 ที่จัดมาทั้งหมด 9 ครั้ง ทีมชาติจีนพลาดไปแค่ 2 ครั้งเพียงเท่านั้น สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Sina ได้วิจารณ์หนักถึงผลงานการทำทีมของกุนซือชาวเกาหลีใต้ พาร์คเทฮา ที่เป็นต้นเหตุของความลุ่มดอนด้วยประการทั้งปวง
ผลงานของทีมชาติจีนในทัวร์นาเมนต์ที่ชนะ 1 แพ้ 2 นั้น ในนัดแรกพ่ายต่อเกาหลีใต้ 1-2 ในนัดต่อมาเอาชนะเมียนมาร์ได้ 5-1 แต่แล้วในนัดสำคัญก็พ่ายต่อญี่ปุ่นจนน้ำตาตกใน ซึ่งทางสื่อจีนได้ลงข่าวดังนี้
"หลังจากที่พาร์คเทฮาได้เข้ามาคุมทีมชาติหญิงรุ่น B นับตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมานี้ก็เข้ามาคุมรุ่น U-19 อีกด้วย ทว่าสไตล์การฝึกซ้อมของกุนซือพาร์คนั้นช่างล้าสมัยอย่างน่าตกใจ เป็นสายซ้อมหนักที่บังคับให้นักเตะทุกคนต้องฝึกเพาะกายจนกว่าจะเป็นลมไปข้าง ไม่มีการใช้ผลประโยชน์จากความสามารถส่วนบุคคลของนักเตะที่กระเตื้องขึ้น โดยในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ใช้แผน 5-4-1 เป็นการเล่นเกมรับ ต่อให้ตัดนัดเจอกับญี่ปุ่นทีมในช่วงชั้นกว่าสูงออกไป การเจอกับเกาหลีใต้และเมียนมาร์ก็ยังใช้แผนการโยนบอลยาวเป็นการดวลกันอุดตลุดเพียงลูกเดียว แม้กระทั่งทีมฟุตบอลชายตอนนี้ก็ไม่มีการเล่นแบบเปื้อนโคลนกันอีกแล้ว เลือกคนเข้ามาคุมอนาคตของทีมชาติผิดแล้วล่ะ นี่มันล้มเหลวครั้งใหญ่!"
ทว่าสำหรับทีมชาติจีนนั้นคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์แน่
ความน่าอับอายของทีมชาติจีนที่พลาดโอกาสเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก ตลอดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกหญิงรุ่น U-20 ที่จัดมาทั้งหมด 9 ครั้ง ทีมชาติจีนพลาดไปแค่ 2 ครั้งเพียงเท่านั้น สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Sina ได้วิจารณ์หนักถึงผลงานการทำทีมของกุนซือชาวเกาหลีใต้ พาร์คเทฮา ที่เป็นต้นเหตุของความลุ่มดอนด้วยประการทั้งปวง
ผลงานของทีมชาติจีนในทัวร์นาเมนต์ที่ชนะ 1 แพ้ 2 นั้น ในนัดแรกพ่ายต่อเกาหลีใต้ 1-2 ในนัดต่อมาเอาชนะเมียนมาร์ได้ 5-1 แต่แล้วในนัดสำคัญก็พ่ายต่อญี่ปุ่นจนน้ำตาตกใน ซึ่งทางสื่อจีนได้ลงข่าวดังนี้
"หลังจากที่พาร์คเทฮาได้เข้ามาคุมทีมชาติหญิงรุ่น B นับตั้งแต่ในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมานี้ก็เข้ามาคุมรุ่น U-19 อีกด้วย ทว่าสไตล์การฝึกซ้อมของกุนซือพาร์คนั้นช่างล้าสมัยอย่างน่าตกใจ เป็นสายซ้อมหนักที่บังคับให้นักเตะทุกคนต้องฝึกเพาะกายจนกว่าจะเป็นลมไปข้าง ไม่มีการใช้ผลประโยชน์จากความสามารถส่วนบุคคลของนักเตะที่กระเตื้องขึ้น โดยในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ใช้แผน 5-4-1 เป็นการเล่นเกมรับ ต่อให้ตัดนัดเจอกับญี่ปุ่นทีมในช่วงชั้นกว่าสูงออกไป การเจอกับเกาหลีใต้และเมียนมาร์ก็ยังใช้แผนการโยนบอลยาวเป็นการดวลกันอุดตลุดเพียงลูกเดียว แม้กระทั่งทีมฟุตบอลชายตอนนี้ก็ไม่มีการเล่นแบบเปื้อนโคลนกันอีกแล้ว เลือกคนเข้ามาคุมอนาคตของทีมชาติผิดแล้วล่ะ นี่มันล้มเหลวครั้งใหญ่!"
นอกจากนั้นยังมีเงามืดขนาดใหญ่ที่ปกคลุมตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทางหนังสือพิมพ์ทำการชี้ประเด็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นต้นเหตุให้ทีมตกต่ำลง
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่น U-20 ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีก่อน เสิน เหมิงหยู่ ที่มีอายุเพียงแค่ 16 ปีแต่ก็เป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมอย่างมหาศาล ยิ่งในทัวร์นาเมนต์รุ่น U-19 นี้เธอรับหน้าที่เป็นกัปตันผู้เป็นเสาหลักที่หาใครมาเทียบเคียงไม่ได้ ทว่าก่อนการแข่งขันเธอก็ถูก "ปลดจากทัพ" อย่างกะทันหัน นอกจากนั้นยังถูกลงโทษหนักโดยห้ามไม่ให้ลงแข่งในทัวร์นาเมนต์ใด ๆ ทั้งสิ้นที่จัดขึ้นในประเทศจีนเป็นเวลา 6 เดือนอีกด้วย
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่น U-20 ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีก่อน เสิน เหมิงหยู่ ที่มีอายุเพียงแค่ 16 ปีแต่ก็เป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมอย่างมหาศาล ยิ่งในทัวร์นาเมนต์รุ่น U-19 นี้เธอรับหน้าที่เป็นกัปตันผู้เป็นเสาหลักที่หาใครมาเทียบเคียงไม่ได้ ทว่าก่อนการแข่งขันเธอก็ถูก "ปลดจากทัพ" อย่างกะทันหัน นอกจากนั้นยังถูกลงโทษหนักโดยห้ามไม่ให้ลงแข่งในทัวร์นาเมนต์ใด ๆ ทั้งสิ้นที่จัดขึ้นในประเทศจีนเป็นเวลา 6 เดือนอีกด้วย