การแข่งขันรอบคัดเลือกศึกฟุตบอลโลกโซนเอเชียครั้งที่ 2 ที่จะเตะกันในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับทีมชาติญี่ปุ่นที่ชนะทีมในช่วงชั้นต่ำกว่ามา 3 นัดต่อเนื่องนั้นจะต้องบุกไปเยือนคีร์กิซสถานในวันที่ 14 พฤศจิกายน

  ท่ามกลางการแข่งขันทั้งหมด 8 กลุ่ม หนึ่งในศึกที่ดุเดือดน่าจับตามองที่สุดคือการแข่งขันในกลุ่ม G ซึ่งมี 4 ทีมที่เป็นคู่แข่งใหญ่จากกลุ่มประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งไทย เวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซีย(อีกทีมคือ UAE) จ่าฝูงคือทีมชาติไทยที่มี 7 คะแนนเท่ากับเวียดนามแต่มีผลประตูได้เสียดีกว่าหนึ่งลูกเพียงเท่านั้น

  ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ไทยกับเวียดนามจะปะทะกันอีกรอบ โดยก่อนการแข่งขันใหญ่นัดนี้จะเกิดขึ้น กุนซือชาวเกาหลีใต้ของทีมชาติเวียดนามอย่างปาร์คฮังซอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นพร้อมกับแสดงความคิดเห็นไม่พึงพอใจกับคำพูดคำจาของบุคคลคนหนึ่งเข้า ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นนิชิโนะ อากิระ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นที่ปัจจุบันคุมช้างศึกอยู่นั่นเองจากการรายงานของทาง Fox Sports Asia

  ต้นเหตุเกิดจากในศึกประชันระหว่างทั้งสองประเทศนัดล่าสุด โดยในการแข่งขันวันที่ 5 กันยายนที่กรุงเทพฯนั้น ทั้งสองทีมต่างก็มีโอกาสจบสกอร์อย่างมากมายแต่ก็ยังไร้ซึ่งความเด็ดขาดจึงทำให้การแข่งขันในวันนี้จบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีประตู ซึ่งทางนิชิโนะ อากิระได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นประเทศไทยกับรูปแบบการเล่นของทีมเวียดนามที่ตั้งใจจะบุกมาเสมอให้ได้ในเกมเยือนดังนี้

  "นักเตะเวียดนามล้มลงต่อหน้าต่อตาผม เขาตั้งใจถ่วงเวลา ผมก็ไปหาเขาแล้วก็พูดภาษาญี่ปุ่นเร่งบอกให้รีบลุกขึ้น... การกระทำแบบนี้มันเป็นความกระทำของทีมที่ในประเทศที่อยู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งที่การแข่งขันมีถึง 90 นาทีแต่พวกเขาอยากจะเล่นเพียง 50-60 นาทีเท่านั้นล่ะมั้ง สำหรับประเทศที่วงการฟุตบอลพัฒนาแล้วเขาต้องทำให้นักเตะแสดงประสิทธิภาพของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด หากมีนักเตะที่แสดงความไม่เป็นมืออาชีพออกมาถึงขนาดนี้ล่ะก็ วงการฟุตบอลไม่มีทางพัฒนาไปได้อย่างแน่นอน"

  พอได้ยินความคิดเห็นเช่นนั้นแล้วกุนซือปาร์คของเวียดนามก็กล่าวโต้คำพูดของนิชิโนะออกมาอย่างรุนแรงดังนี้

  "ได้ยินเรื่องกุนซือทีมชาติไทยที่พูดถึงนักเตะของเราแล้ว ในฐานะของคนที่เป็นกุนซือนั้นควรจะระมัดระวังคำพูดของตัวเองที่มีต่อนักเตะด้วย ก่อนที่จะโทษคนอื่นควรดูตัวเองก่อน ศึกคิงส์คัพในปีนี้เนี่ยนักเตะไทยเองก็ทำเหมือนกันเลยนะ ผมเนี่ยไม่ได้สั่งให้พวกนักเตะทำอะไรแบบนั้น(เล่นถ่วงเวลา)เลยแม้แต่น้อย คำพูดแบบนี้มันรับไม่ได้จริง ๆ"

  ศึกการแข่งขันในเดือนกันยายนของทั้งสองทีมมีความดุเดือดตลอดเวลาจากทั้งสองกุนซือทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าศึกประชันระหว่างทั้งสองชาติที่จะเตะกันในกรุงฮานอยที่นัดที่สองนี้จะมีความดุเดือดขนาดไหนเกิดขึ้นกันแน่

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest