วันที่ 15 ตุลาคม การแข่งขันรอบคัดเลือกศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ณ กรุงเปียงยาง ศึกแห่งสองเกาหลีจบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีประตูเกิดขึ้น

  บรรยากาศความแปลกประหลาดเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนการแข่งขันแล้ว ไม่เพียงแต่เกาหลีเหนือจะห้ามไม่ให้มีการถ่ายทอดสดไปยังนานาชาติเท่านั้น ยังห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวชาวเกาหลีใต้เข้ามาทำข่าวในสนามอีกด้วย มิหนำซ้ำการแข่งขันในนัดนี้ยังห้ามไม่ให้คนต่างชาติเข้ามารับชมในสนาม นอกจากข้อมูลเรื่องใบเหลือง 4 ใบที่ทาง FIFA และ AFC เปิดเผยออกมาใน Match Report แล้วก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเกมการแข่งขันอย่างอื่นที่ถูกเปิดเผยออกมาเลย

　สรุปแล้วมันเป็นการแข่งขันแบบไหนกันแน่?

  สื่อเกาหลี The Korea Herald ระบุว่า ทางผู้สื่อข่าวที่เข้าไปทำข่าวศูนย์หน้าทีมชาติเกาหลีเหนือซองฮึงมินที่สนามบินอินชอน "เล่นหนักค่อนข้างเยอะเลย" เจ้าตัวเกริ่นขึ้นเช่นนั้นแล้วก็พูดถึงความทรหดในการแข่งขันออกมาดังนี้

  "ฝั่งตรงข้ามใช้ร่างกายในการเล่นค่อนข้างหนัก นอกจากนั้นก็มีปากเสียงกันหลายครั้งด้วยครับ บางทีอาจจะเป็นแทคติกสำหรับพวกเราก็ได้ล่ะมั้ง พูดตามตรงแล้วการเพ่งสมาธิในการแข่งขันนี่เป็นเรื่องยากมากเลยครับ กลายเป็นว่าความรู้สึกเป็นห่วงเนื้อตัวเพื่อไม่ได้รับบาดเจ็บกลับไปนั้นมากยิ่งกว่า"

  ฝั่งเกาหลีเหนือนั้นห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์สื่อสาร ถูกปิดตายในโรงแรมในคืนก่อนการแข่งขันจนทำให้นักเตะเกาหลีใต้สภาพจิตใจห่อเหี่ยวนับตั้งแต่ยังไม่ได้ลงสนาม "ดีใจจริง ๆ ที่จบลงโดยไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวกลับมาครับ" นั่นคือคำพูดจากหัวหอกแห่งเกาหลีใต้ซองฮึงมิน

  "พวกเราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นเกาหลีเหนือจึงทำให้พวกเราเข้าไปในจังหวะของพวกเขา เพียงแต่สำหรับการแข่งขันแบบนี้แล้ว การที่พวกเราทั้งทีมไม่บาดเจ็บอะไรกลับมานั้นมีผลกระทบมากยิ่งกว่าครับ แน่นอนว่าถึงผมจะเสียใจที่ไม่สามารถคว้า 3 คะแนนกลับมาได้ก็ตาม จึงได้แต่หวังว่าจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นในเกมเหย้าให้ได้ครับ"

  จากคำพูดของซองฮึงมินนั้นก็ทำให้เข้าใจว่าศึกประชันระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ ณ กรุงเปียงยางในรอบ 29 ปีนับตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลเกาหลีเหนือ-ใต้ในปี 1990 นั้น สำหรับทีมชาติเกาหลีใต้แล้วการแข่งขันนัดนี้คงเป็นเกมเยือนสุดทรหดอย่างแน่นอนเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest