การโอนสัญชาติของศูนย์หน้าบราซิล "อาณาจักรแห่งฟุตบอล" ไปถือสัญชาติจีนเพื่อลงเล่นกับทีมชาติจีนนั้นเป็นประเด็นลือลั่นทั่วทั้งโลก ศูนย์หน้าคนดังกล่าวไม่ใช่ใครอื่นแต่หมายถึง Elkeson แห่งสโมสร Guangzhou Evergrande นั่นเอง

  เอลเคสันปัจจุบันนี้ในวัย 30 ปี เขาย้ายมาเล่นกับสโมสร Guangzhou Evergrande เมื่อเดือนมกราคม 2013 จากนั้นก็โลดแล่นใน Chinese Super League มาตลอด 5 ปี ในฤดูกาล 2013-2014 ช่วยทีมกวางโจวคว้าแชมป์ลีกสองสมัยต่อเนื่อง นับว่าเป็นนักเตะชาวต่างชาติที่สร้างผลงานอย่างลือลั่นในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

  ล่าสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดาวยิงตัดสินใจที่จะโอนสัญชาติมาเป็นจีน จึงทำให้การแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชียครั้งที่ 2 ของศึกฟุตบอลโลกที่เตะกับทีมชาติมัลดีฟในเดือนที่ผ่านมานั้นเอลเคสันได้ลงสนามเป็นนัดแรกพร้อมกับยิงประตูช่วยทีมได้ทั้งหมด 2 ลูกอย่างรวดเร็ว

  แน่นอนว่าการโอนสัญชาตินั้นก็ต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมานั่นก็เพราะเขาไม่มีเชื้อสายจีนเลยแม้แต่น้อย ทว่าก็มีนักเตะอยู่หนึ่งคนที่ชื่นชมการตัดสินใจของเขา นักเตะที่ว่าก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น Hulk เพื่อนร่วมทีมกวางโจวนั่นเอง

  ศูนย์หน้าที่เคยเล่นอยู่กับเจลีกมาก่อนนั้น เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อบราซิล Gazeta Esportiva พร้อมกับแสดงความคิดเห็นออกมาดังนี้

  "การได้ร่วมใช้ชีวิตกับไอดอลที่ปลาบปลื้มนานหลายปีจนตัดสินใจเปลี่ยนมาถือครองสัญชาติจีนนั้นนับเป็นเรื่องที่ดีทั้งกับเขาและกับประเทศจีน การตัดสินใจเปลี่ยนสัญชาตินั้นคือสิ่งที่บ่งบอกถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ยิ่งเขาค้าแข้งมานานเท่าไรก็ยิ่งเข้าใจแวดวงฟุตบอลจีนเป็นอย่างดี ทุกคนก็เข้าใจในตัวของเขาด้วย ผมคิดว่าเขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเลย"

  ในส่วนของฮัลค์นั้นหลังจากย้ายไปอยู่กับ Porto จาก Tokyo Verdy เมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 เขาก็สร้างสถิติยอดเยี่ยมด้วยการลงสนาม 170 นัดยิงไป 77 ประตู โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่ามีโอกาสที่เขาจะได้เล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกรสอีกด้วย

  "หากผมอยู่ในจุดยืนเดียวกันล่ะก็ผมคงโอนสัญชาติแน่ ตอนที่ผมเล่นอยู่กับปอร์โต้นั้นก็มีโอกาสย้ายเข้าไปเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกสด้วย แต่ตอนนั้นผมเพิ่งมาอยู่โปรตุเกสเพียง 2-3 ปีเท่านั้นก็เลยปฏิเสธไป ผมในสมัยวัยรุ่นนั้นยังคงวาดฝันที่จะเล่นให้กับทีมชาติบราซิลมากยิ่งกว่าครับ"

  หลังจากนั้นตัวของฮัลค์ที่ได้เล่นกับทีมชาติบราซิลในปี 2014 ที่ประเทศบ้านเกิดเป็นเจ้าภาพนั้น "ผมซาบซึ้งใจมากจริง ๆ ที่ฝันของผมกลายเป็นจริง" 

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest