วันที่ 5 กันยายน การแข่งขัน Kirin Challenge Cup ระหว่างญี่ปุ่นกับปารากวัย ชัยชนะในนัดนี้ตกเป็นของญี่ปุ่น 2-0 นับเป็นการแข่งขันอุ่นเครื่องครั้งใหญ่ก่อนศึกคัดเลือกฟุตบอลโลกที่กาตาร์รอบที่ 2 ที่จะญี่ปุ่นเจอกับทีมเมียนมาร์

  สื่อต่างชาติให้ความสนใจกับทีมชาติญี่ปุ่นที่สามารถเอาชนะหนึ่งทีมแกร่งจากอเมริกาใต้ได้ โดยหนึ่งในสิ่งที่จับตามองเป็นพิเศษนั้นคือการโชว์ทักษะเดาะบอลในช่วงก่อนจบการแข่งขันครึ่งแรกของนากาจิมะ โชยะ

  นากาจิมะ โชยะเป็นเพลย์เมคเกอร์ในเกมนี้ เขาช่วยปั้นสองประตูให้กับโอซาโกะ ยูยะและมินามิโนะ ทาคุมิ ในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นพอนากาจิมะรับบอลด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดก็วิ่งพาบอลสลับเดาะบอลไปพลาง ๆ จึงทำให้ Antonio Sanabria วิ่งตามมาจากข้างอย่างรวดเร็วแล้วก็พุ่งเสียบสกัดเอาไว้อย่างหนักหน่วงจนทำให้เจ้าตัวได้รับใบเหลืองไป

  เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้สื่อฟุตบอลเฉพาะทางของเนเธอร์แลนด์ VTBL ระบุว่า "สมแล้วที่นากาจิมะจะโดนแบบนี้" เป็นการเกริ่นนำเช่นนั้น "การเดาะบอลโชว์นั้นเป็นการหยามนักเตะปารากวัยที่เปี่ยมไปด้วยความอึดอัด ท้ายที่สุดนั้นเขาก็โดน "ใบเลื่อย" สุดคลาสสิกแห่งอเมริกาใต้เล่นงานไปเลย" เป็นการติติงเช่นนั้น

  ทว่าสื่อโคลัมเบียที่อยู่อเมริกาใต้เหมือนกันกับปารากวัยอย่าง palzo กลับระบุว่า "เป็นใบเหลืองสุดพิลึก" ถึงนี่จะเป็นการแข่งขันกระชับมิตร แต่การเข้าเสียบรุนแรงแบบนี้ผู้ตัดสินก็ควรแจกใบแดงไปแล้ว

  "นากาจิมะ โชยะ "โชว์ของเล็กน้อย" ต่อหน้าต่อตาของมิดฟิลด์ปารากวัย เจ้าตัวจึงพุ่งเข้ามาเสียบอย่างสุดแรง นักเตะปารากวัยที่อยู่แถว ๆ นั้นก็เข้ามารุมนากาจิมะอีกด้วย แต่การที่ผู้ตัดสินแจกเพียงแค่ใบเหลืองนั้นมันเป็นอะไรที่พิศวงเอามาก ๆ"

  ว่าแต่ว่าสื่อโปรตุเกสมองนากาจิมะที่ปัจจุบันสังกัดอยู่กับสโมสรปอร์โต้อย่างไรบ้าง

  หนังสือพิมพ์โปรตุเกส Record ระบุว่า "นากาจิมะอยากจะโชว์นิดหน่อยเท่านั้น แต่เขาก็โดนพุ่งเสียบหวังฆาตกรรม" และ "ซานาเบรียเข้าสกัดได้เลวร้ายมาก" ส่วนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น A BOLA ระบุว่า "นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าทักษะของนากาจิมะนั้นโดดเด่นเหลือเกิน" เป็นการชื่นชมฟอร์มการเล่นของนากาจิมะ

  ส่วนการพุ่งเข้าเสียบของซานาเบรียนั้นทำให้แฟน ๆ ส่งเสียงตำหนิออกมาเยอะมาก

  "ทำไมถึงป่าเถื่อนงี้ล่ะ เหลือเชื่อเลย!" "ก่อนการแข่งขันเริ่มก็มีการปฏิญาณการเล่นแฟร์เพลย์แล้วไม่ใช่เหรอ..." "แบบนี้มันต้องโดนใบแดงอย่างไม่ผิดแน่" "โมโหกับอะไรแค่นี้มันงี่เง่ามากเลย แสดงว่านักเตะที่มีเทคนิคเยอะจำเป็นต้องไม่โชว์เทคนิคอะไรออกมาเพื่อไม่ให้พวกกระจอกรู้สึกหัวร้อนงั้นเหรอ? ไร้สาระเป็นบ้า"

  หลังการแข่งขันจบลงเจ้าตัวนากาจิมะระบุว่า "ผมไม่ได้คิดจะยั่วยุแต่อย่างไร" เจ้าตัวอธิบายเช่นนั้นพร้อมกับกล่าวขอโทษ ทว่าการกระทำที่หากมีข้อผิดพลาดขึ้นมาก็อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บสาหัสได้นั้นก็กลายเป็นว่ามีเสียงสองด้านจากต่างแดนออกมาด้วย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest